กิจการ 20.26-31

          อะไรเป็นสิ่งที่พระเยซูทรงถือว่า มีค่าสูง  นั่นคือ คริสตจักร   พระวจนะสำหรับวันนี้เป็นคำเทศนาของเปาโลที่ให้แก่ผู้ดูแลคริสตจักรเอเฟซัส   พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงแต่งตั้งและทรงประทานของประทานฝ่ายวิญญาณแก่เราทุกๆคน เพื่อให้เราใช้ของประทานเหล่านี้ในการดูแลคริสตจักรของพระองค์   เมื่อเราศึกษาพระคัมภีร์สักนิตหนึ่ง เราคงเข้าใจได้ว่า พระเยซูทรงรักคริสตจักรมากเป็นพิเศษ   พระคัมภีร์บอกว่า คริสตจักรเป็นเจ้าสาวของพระเยซูคริสต์   หมายความว่า พระองค์ทรงรักคริสตจักร   พระคัมภีร์บอกอีกว่า คริสตจักรเป็นพระกายของพระองค์  หมายถึงความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด แยกออกจากกันไม่ได้เลย   พระวจนะในวันนี้ให้เราเห็นอีกอย่างหนึ่งว่า พระเยซูคริสต์ได้ทรงซื้อคริสตจักรด้วยพระโลหิตของพระองค์  คำว่า “ได้มา” ก็หมายความว่า “ซื้อ”   เปาโลได้กล่าวว่า “พระเจ้าได้ทรงซื้อท่านไว้แล้ว ด้วยราคาสูง ...” (1โครินธ์ 6.20)   เราได้รับความรอดโดยไม่ต้องเสียอะไรเลย แต่พระเจ้าทรงจ่ายค่าไถ่บาปอย่างสูงมาก คือพระโลหิตของพระเยซูคริสต์   คำว่า พระเยซูได้ทรงซื้อคริสตจักรด้วยพระโลหิตของพระองค์นั้น หมายความว่าอะไร  

1.   พระเยซูได้ทรงสละชีวิตของพระองค์เพื่อคริสตจักร 
           “และเขาทั้งหลายก็ร้องเพลงใหม่ว่าดังนี้ พระองค์ทรงเป็นผู้ที่สมควรจะทรงรับม้วนหนังสือ และแกะตราม้วนหนังสือนั้นออก เพราะว่าพระองค์ทรงถูกปลงพระชนม์แล้วและด้วยพระโลหิตของพระองค์นั้น พระองค์ได้ทรงไถ่คนทุกเผ่า ทุกภาษา ทุกชาติและทุกประเทศเพื่อถวายแด่พระเจ้า” (วิวรณ์ 5.9)
 เมื่อบรรพบุรุษคนแรกของเรา คืออาดัมได้ทำผิดต่อพระเจ้า ไม่เชื่อฟังพระองค์ ความบาปได้เข้ามาในโลก และความตายได้ตามมาด้วย   บาปและนิสัยแห่งความบาปได้ไหลอยู่ในเลือดของเรา ซึ่งเป็นเชื้อสายของอาดัม   เราทุกคนจึงกลายเป็นทาสของซาตานและอยู่ใต้ความตาย เพราะค่าจ้างของความบาป คือ ความตาย  เนื่องจากคนที่ตายแล้ว ช่วยตัวเองไม่ได้ เราจึงต้องการคนที่จะช่วยเราให้รอด
 นี่เป็นช่าวดีที่พระเยซูคริสต์ได้ทรงจ่ายค่าไถ่บาปของเราด้วยพระโลหิตของพระองค์เอง  คำว่า “ไถ่” ก็คือ “ซื้อ” ถ้าเราจะซื้ออะไร  เราก็ต้องจ่ายค่าของมัน   ค่าไถ่บาป คือ ความตาย   ฉะนั้นพระเยซูทรงยอมตายเพื่อเรา เพื่อจะจ่ายค่าไถ่บาปของเรา  ก่อนที่พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระองค์ทรงตรัสว่า “สำเร็จแล้ว” หมายความว่า พระองค์ทรงซื้อเราจากมารซาตานด้วยพระโลหิตของพระองค์ เพื่อจะถวายแด่พระเจ้า
 พระเจ้าได้ทรงสร้างท้องฟ้าและแผ่นดินและสิ่งทั้งปวงในนั้นภายในหกวันเท่านั้น แต่พระเจ้าได้ทรงวางแผนที่จะช่วยมนุษย์ให้รอดตั้งแต่ก่อนสร้างโลก   ได้ทรงพยากรณ์มาเรื่อยๆ จนพระเยซูได้ทรงบังเกิดมา ใช้เวลาหลายพันปี    พระคัมภีร์ได้ใช้แค่ 2บทเท่านั้นในการบันทึกการสร้างโลกนี้ แต่ตลอดพันธสัญญาเดิมได้พยากรณ์ พูดถึงพระเยซูคริสต์ ผู้ที่จะเสด็จมาตายแทนเรา
 วันนี้เป็นวันทรมานของพระเยซู   วันที่พระเยซูได้เสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม   เมื่อพระองค์ทรงลูกลาเข้ากรุงเยรูซาเล็ม  บางคนเอาเสื้อของตนมาปูหลังลา หรือบนถนน บางคนได้ตัดกิ่งอินทผลัมมาปูตามถนนที่พระเยซูเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม  ดังนั้นเรียกวันนี้ว่า วันอินทผลัม   ตั้งแต่วันนี้ตลอดสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์แห่งความทรมาน   พระเยซูทรงทนทุกข์ทรมานเพื่อเรา เพื่อจะซื้อเราจากบาปและซาตาน แล้วถวายแด่พระเจ้า 

2.  คริสตจักรมีค่าสูงสุดทั่วโลก
 “พระเจ้าได้ทรงซื้อท่านไว้แล้ว ด้วยราคาสูง ...” (1โครินธ์ 6.20) คือพระโลหิตอันประเสริฐ   พระคัมภีร์ได้กล่าวไว้ว่า “ท่านรู้ว่าพระองค์ได้ทรงไถ่ท่านทั้ง หลายออกจากการประพฤติอันหาสาระมิได้ ซึ่งท่านได้รับต่อจากบรรพบุรุษของท่าน มิใช่ไถ่ไว้ด้วยสิ่งที่เสื่อมสลายได้ เช่นเงินและทอง แต่ทรงไถ่ด้วยพระโลหิตประเสริฐของพระคริสต์ ดังเลือดลูกแกะที่ปราศจากตำหนิหรือจุดด่าง (1เปโตร 1.18-19)   พระโลหิตของพระเยซูคริสต์นั้นประเสริฐ มีค่าสูง ดังนั้น คริสตจักร ซึ่งพระองค์ได้ทรงซื้อด้วยพระโลหิตของพระองค์ ก็ประเสริฐ มีค่าสูง   
 พระเจ้าทรงเลือกไว้ตั้งแต่ก่อนเริ่มสร้างโลก พระเยซูคริสต์ทรงไถ่ด้วยพระโลหิตของพระองค์ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงประทับตราไว้  เพราะฉะนั้นคริสตจักรมีค่าสูงสุดทั่วโลก   ในโลกนี้ ไม่มีอะไรที่มีค่าและเกียรติเท่ากับคริสตจักรเลย   เราเป็นคนพิเศษ เพราะพระเจ้าทำให้เป็นพิเศษ 
 เราควรให้เกียรติแก่คริสตจักร ไม่น่าดูหมิ่นคริสตจักร  ในสมัยซามูเอล ปุโรหิตเอลีมีลูกชายสองคน  ลูกทั้งสองของเอลีเป็นคนอันธพาล เพราะเขามิได้นับถือพระเจ้า (1ซมอ. 2.12)   บาปของคนหนุ่มทั้งสองนั้นใหญ่หลวงนักในสายพระเนตรของพระเจ้า เพราะว่าเขาได้ดูหมิ่นของถวายแด่พระเจ้า (1ซมอ.2.17)   พระเจ้าตรัสว่า “ผู้ที่ให้เกียรติแก่เรา เราจะให้เกียรติ และบรรดาผู้ที่ดูหมิ่นเรา ผู้นั้นจะถูกดูหมิ่น” (1ซมอ.2.30)  การให้เกียรติแก่คริสตจักร คือการให้เกียรติแด่พระเจ้า  
เราควรเอาคริสตจักรเป็นศูนย์กลางในชีวิตของเรา   เราควรใช้กำลัง ใช้ปัญญา ใช้พลสวรรค์และความสามารถ ใช้เงิน ใช้ความรู้ และใช้สิ่งอื่นๆที่เรามี เพื่อคริสตจักรการกระทำเช่นนี้ก็ถูกต้อง เพราะเรามักจะใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อสิ่งที่เราถือว่ามีค่า     
    
3.  เราควรรักษาคุณค่าของคริสตจักร  
          “ท่านทั้งหลายจงระวังตัวให้ดีและจงรักษาฝูงแกะที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงตั้งท่านไว้ให้เป็นผู้ดูแล ...” (28 ก)   พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงเรียกและแต่งตั้งเราทุกคนไวให้ดูแลคริสตจักร เพราะเราเป็นครอบครัวของพระเจ้าและเป็นตึกของพระเจ้า   เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เราควรจะดูลคริสตจักรอย่างไรดี   ตามพระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ มีวิธีสองประการในการดูแลคริสตจักร
    1) ระวังตัวให้ดีก่อน   ก่อนที่จะดูแลคริสตจักร เราจำเป็นต้องดูแลตัวเองให้ดีก่อน  
แน่นอน คริสตจักรที่นี่ไม่ได้หมายความว่า อาคารหรือตึก แต่หมายถึงชุมชนแห่งความเชื่อ คือผู้ที่ได้รับความรอด    คริสตจักรของพระเจ้าเป็นชุมชนบริสุทธิ์ เพราะฉะนั้น เราต้องดูแลตัวเองให้บริสุทธิ์ เพราะเราเป็นส่วนหนึ่งของคริสตจักร
 เราควรดูแลตัวเองโดยพระวจนะของพระเจ้าและโดยการอธิษฐาน   ควรอ่าน ศึกษา ภาวนาพระวจนะของพระเจ้าเป็นประจำ และนำมาประยุกใช้กับตัวเองในการดำเนินชีวิตประจำวัน   และได้ตอบสนองต่อพระวจนะของพระเจ้าโดยการอธิษฐาน  
   2) ดูแลคริสตจักร   คนที่ดูแลตัเองให้ดีก็ควรดูแลคนอื่นๆในคริสตจักรของเรา  มี
ท่าที 3 ประการในการดูแลคริสตจักร(ข้อ 31)
ก.  ตื่นตัวอยู่ หมายความว่า เฝ้าดูว่าเกิดอะไรที่ทำลายฝูงแกะขึ้นไหม
ข.  ด้วยน้ำตาไหล หมายถึงความรักฉันพี่น้อง
ค.  ไม่หยุดทั้งกลางวันและกลางคืน ก็คือความขยันและการทำงานหนัก
มีสาเหตุที่เราต้องรักษาคุณค่าของคริสตจักรเช่นนี้ เพราะครูเทียมเท็จที่สอนผิด   ครูเทียมเท็จมาจากทั้งภายนอกและภายในคริสตจักร  
    1)  ครูเท็จจากนอกคริสตจักร   เปาโลบอกในข้อ 29ว่า “ข้าพเจ้าทรบอยู่ว่า เมื่อข้าพเจ้าไปแล้วจะมีสุนัขป่าอันร้ายเข้ามาในหมู่พวกท่าน และจะไม่ละเว้นฝูงแกะไว้
เลย”   คำว่า “ข้าพเจ้าไปแล้ว” หมายถึงความตายของเปาโล  สุนัขป่าอันร้าย หมายถึงครูเท็จ  เมื่อเปาโลเสียชีวิตแล้ว ครูเท็จได้ปลอมตัวเป็นแกะ และได้เข้ามาในคริสตจักรเพื่อจะทำลายศักดิ์ศรีของคริสตจักร
     2)  ครูเท็จภายในคริสตจักร   เปาโลได้บอกต่อไปในข้อที่ 30 ว่า “จะมีบางคนในหมู่พวกท่านเองกล่าวผันแปรความจริง เพื่อจะชักชวนพวกสาวกให้หลงตามเขาไป”   ตรูเท็จได้เกิดมาจากภายในคริสตจักร   คนเหล่านี้พยายามชักชวนผู้ที่เชื่อให้ติดตามตัวเองแทนที่จะให้ติดตามพระคริสต์   คำกล่าวผันแปรความจริง หมายถึงการพูดความจริงและความเท็จผสมกัน   ทำให้เราแยกออกจากกันยาก   เราจำเป็นต้องรักษาความบริสุทธิ์ของคริสตจักรจากครูเทียมเท็จเหล่านี้      
 
           พระเยซูคริสต์เองทรงเป็นผู้ก่อตั้งคริสตจักรของพระองค์    พระองค์ทรงถือว่าคริสตจักรมีค่าสูงสุด   พระองค์ทรงให้เราทุกคนดูและคริสตจักรของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้ทรงซื้อด้วยราคาสูง คือพระโลหิตของพระองค์   ขอให้เรารักษาชีวิตของตนให้ดี ให้บริสุทธิ์ และรักษาคุณค่าของคริสตจักรโดยการดูแลซึ่งกันและกัน   ให้เรามาร่วมมือร่วมใจสร้างคริสตจักรของพระองค์ให้เจริญและเติบโตขึ้น เพื่อจะเป็นที่ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า