1 ซามูเอล 7.3-10

            ในเช้าวันนี้ ข้าพเจ้าจะเทศนาด้วยหัวข้อว่า “ต้องการการฟื้นฟูใหญ่หรือ”   หัวข้อนี้เป็นคำถามที่พี่น้องควรตอบ   ต้องการไหม   ถ้าพี่น้องต้องการการฟื้นฟูจริงๆ การฟื้นฟูที่พี่น้องต้องการนั้นเป็นอย่างไร   อะไรเป็นความหมายของการฟื้นฟูจิตวิญญาณ
            ผู้เขียนสดุดีได้กล่าวไว้ว่า “พระองค์จะไม่ทรงให้ข้าพระองค์ทั้งหลายฟื้นอีกหรือ เพื่อประชากรของพระองค์จะได้เปรมปรีดิ์ในพระองค์” (สดุดี 85.6)   คำว่า การฟื้นฟู (Revival) มีรากศัทพ์ในภาษาลาติน (re+vivere)  คำว่า vivere ในภาษาลาตินนั้น มีความหมายสองอย่าง  ฟื้นขึ้น และเยี่ยมเยียน  ดังนั้น การฟื้นฟู  ก็คือ การฟื้นขึ้นมาอีก หรือ การเยี่ยมเยียน  พูดอีกนัยหนึ่ง การประสบการเสด็จมาเยี่ยมมนุษย์ของพระเจ้า   ถ้าผู้ใดได้พบพระเจ้าเมื่อพระเจ้าเสด็จมาเยี่ยม  ผู้นั้นได้รับการฟื้นฟู  ฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ถูกเทลงมาถึงแก่เขา   แล้วสองสิ่งได้บังเกิดขึ้น   คนนั้นได้รับการเปลี่ยนแปลงไป  ดำเนินชีวิตอย่างมีชีวิตชีวา   เข้าใจความจริงอย่างลึกๆและเชื่อฟังได้ซึ่งเคยรู้อย่างผิวเผินในสมองเท่านั้น   และอีกประการหนึ่ง  คนที่ยังไม่เป็นคริสเตียนก็ได้กลับมาหาพระเจ้า    เราต้องการการฟื้นฟูเช่นนี้ เพราะชีวิตของเราเหมือนชนชาติอิสราเอลในสมัยสามูเอล
           เมื่อเราดูเบื้องหลังทางประวัติศาสตร์ เวลานั้นนั้นเป็นช่วงที่ยุคผู้วินิจฉัยกำลังจะสิ้นสุดลงและเข้ายุคอาณาจักรอิสราเอล  ตระกูลของปุโรหิตเอลลีหายหน้าไปและซามูเอลเริ่มมีบทบาท   ในสมัยยุคผู้วินิจฉัยนั้น เป็นยุคแห่งความมืดฝ่ายวิญญาณ ต่างคนต่างทำตามที่ตนชอบเห็น  เป็นยุคที่เสื่อมทรามไปทางศาสนาและวิญญาณ    ผู้นำทางศาสนาที่ดูแลและรับผิดชอบประชาชนฝ่ายวิญญาณ คือปุโรหิตไม่ได้ยินพระสุระเสียงและการทรงเปิดเผยของพระเจ้า และลูกๆของเขาได้กระทำชั่วในพระวิหารของพระองค์   ได้พ่ายแพ้ในการสู้รบกับคนฟีลิสเตีย ลูกสองคนของเอลลีก็ตาย หิบพันธสัญญาของพระเจ้าก็ถูกยึดไป   ล้มเหลว ไม่เห็นทางออก   คนอิสราเอลได้กลับมาหาพระเจ้าและขอความช่วยเหลือจากพระองค์   พระเจ้าทรงใช้ผู้เผยพระวจนะซามูเอลให้กระทำการฟื้นฟูยิ่งใหญ่ที่เมืองมิสบาห์ ซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อน  แล้ว เกิดการกลับคืนสู่สภาพเดิมและพระพรแห่งสันติภาพก็มาถึง  คนอิสราเอลได้คืนสู่สภาพเดิมกับพระเจ้า กับคนอื่นและกับทุกสิ่ง   อนกจากแล้ว ได้รับสันติภาพที่แท้จริงที่พระเจ้าทรงนำมาให้
         เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว  คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ พระเจ้าจะเสด็จมาเยี่ยมใคร  ใครจะพบพระเจ้าได้เมื่อพระองค์ทรงมาเยี่ยม  

1.  การฟื้นฟูเกิดขึ้นได้แก่ผู้ที่สารภาพบาปและกลับใจใหม่
           เหมือน ข้อ 3และ4 การฟื้นฟูของพระเจ้านั้นมักจะเกิดขึ้นเมื่อเราสารภาพบาปของเราและกลับใจใหม่ของเรา   ซามูเอลได้ชี้แจงให้คนอิสราเอลทราบว่า สาเหตุที่คนอิสราเอลพ่ายแพ้คนฟีลิสเตียและทนทุกข์นั้น เพราะคนอิสราเอลได้ทำบาป กราบใหว้รูปเคารพ ซึ่งเป็นบาปที่พระเจ้าทรงเกลียดชังมากที่สุด   พวกเขาได้ปรนนิบัติพระบาอัลและพระอัชทาโรท   เขาเชื่อกันว่า พระบาอัลและพระอัชทาโรทเป็นพระที่นำความมั่งคั่งและความสนุกสนานมาให้เขา   
ในข้อ 6 คนอิสราเอลได้สารภาพบาปว่า “เราทั้งหลายได้กระทำบาปต่อพระเจ้า”   เมื่อคนอิสราเอลได้สารภาพบาปและทิ้งพระเหล่านี้เสีย พระเจ้าสู้รบกับคนฟีลิสเตีย ทำให้คนอิสราเอลชนะโดยการใช้วิธีที่ไม่มีใครคิดได้
             เมื่อยาโคบได้กลับมาคืนดีกับพี่ชายเอซาว ดูเหมือนได้ประสบความสำเร็จละดับหนึ่ง   แต่ลูกชายของยาโคบได้แก้แค้นน้องสาวของตน ได้ฆ่าผู้ชายทั้งหมดในเมืองเชเคม   ยาโคบเดื้อร้อนมาก และกลัวว่า คนในบริเวณนั้นโจมตีเขา   พระเจ้าตรัสให้ยาโคบขึ้นไปยังเมืองเบธเอล  ยาโคบจึงบอกทุกคนให้ละทิ้งพระต่างด้าว ชำระตัว และเปลี่ยนเสื้อผ้า  สารภาพบาป  แล้วขึ้นไปยังเบธเอล สร้างแท่นบูชาพระเจ้า  พระเจ้าอวยพระพรยาโคบที่นั้น
ปัญหาใหญ่ที่สุดของเราในปัจจุบันนี้ คืออะไร  ไม่ใช่ปัญหาทางเศรษฐกิจ หรือปัญหาอื่นๆ แต่ปัญหาของความบาป  คนในยุคนี้ได้กราบใหว้รูปเคารพนี้ โดยการติดตามความมั่งคั่งและความสนุกสนานทางเพศ   สร้างปัญหาและทะเลาะกันเพราะเงินและความสนุกสนานทางเพศมากมาย   เราจำเป็นต้องกลับจากสิ่งเหล่านี้ และสารภาพอย่างเอาจริงเอาจัง   เราต้องสารภาพบาปส่วนตัว สารภาพบาปของครอบครัว และสารภาพบาปของประเทศชาติของเราด้วย  เพราะความบาปทำให้ต้องเกิดการพิพากษา   เพราะฉะนั้น สิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนมากที่สุด คือสารภาพบาปและกลับใจใหม่   สิ่งอื่นนั้น เราเลื่อนไปได้ แต่อย่าลีรอช้าที่จะสารภาพและกลับใจใหม่   บางครั้ง การพิพากษาและความตายมาถึงแก่บางคนโดยไม่มีเวลาที่จะสารภาพบาป
 
2.  การฟื้นฟูเกิดขึ้นแก่ผู้อธิษฐาน
               ข้อ 5, 6 และ 8, 9  เราเห็นชัดเจนว่า การฟื้นฟูที่เมืองมิสปาห็ได้เกิดขึ้นในขณะ ที่พวกเขาขะมักเขม้นในการอธิษฐาน    ซามูเอลบอกว่า “ข้าพเจ้าจะอธิษฐานต่อพระเจ้าเพื่อท่าน” (ข้อ 5)   คนอิสราเอลได้ร้องต่อซามูเอลว่า “อย่าหยุดร้องทูลพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราเพื่อเราทั้งหลาย เพื่อขอพระองค์ทรงช่วยเราให้พ้นจากมือของคนฟีลิสเตีย” (ข้อ 8)    คำอธิษฐานของผู้นำสำคัญมาก  คริสตจักรต้องการคำอธิษฐานของผู้นำอย่างมาก   พระเจ้าได้ทรงแต่งตั้งเราให้เป็นผู้นำในคริสตจักร   คำว่า “ผู้นำ” ที่นี่ คงไม่ได้หมายถึงศิษยาภิบาลเท่านั้น แต่คงหมายถคงผู้นำทุกละดับในคริสตจักร เช่น มัคนายก ครูเด็กรวีฯ ทิมดนตรี ผู้นำเพลง  ผู้นำนมัสการ  ผู้นำของแต่ละคณะ เป็นต้น  
 แต่เรื่องเกี่ยวกับการอธิษฐานนั้น ไม่ใช่ผู้นำเท่านั้น ทุกคนจำเป็นต้องอธิษฐานเพื่อการฟื้นฟู   ซามูเอลก็อธิษฐาน แต่คนอิสราเอลก็อธิษฐานด้วย  ไม่ใช่อธิษฐานอย่างเดียว  พวกเขาอดอาหารด้ว  ในข้อที่ 6 บอกว่า “เขาทั้งหลาย... อดอาหารในวันนั้น..” ก่อนที่ยาโคบกลับมาพบเอซาวพี่ชายของตน เขากลัวพี่ชายมาก  เมื่อยาโคบมาถึงแม่น้ำยับบอก  เขาจัดให้ครอบครัวทุกคนข้ามแม่น้ำไป มีเหลือแต่เขาคนเดียวยาโคบได้อธิษฐานกับพระเจ้าที่นั้น อย่างเอาจริงเอาจัง  พระเจ้าได้ทรงทำการฟื้นฟู และให้เกิดการคืนดีกับพี่ชายเอซาวได้  
               คริสตจักรเยรูซาเล็มในหนังสือกิจการได้อธิษฐานอย่างจริงจัง พระเจ้าทรงกระทำการฟื้นฟู  คริสตจักรเยรูซาเล็มได้รับการเพิ่มพูนทั้งปริมาณและคุณภาพด้วย   ก่อนงานฟื้นฟู   เราก็จะอธิษฐานด้วยการอดอาหารในสัปดาห์ที่จะถึงนี้และมีประชุมอธิษฐานพิเศษในคืนวันศุกร์หน้า   เราควรเตรียมใจของเราด้วยการอธิษฐาน มิฉะนั้น อาจจะมีการทดลองมาก็ได้    ในข้อ 7 ก็บอกว่า “เมื่อคนฟีลิสเตียได้ยินว่า คนอิสราเอลได้ประชุมกันที่เมืองมิสปาห์ เจ้านายแห่งฟีลิสเตียก็ยกขึ้นไปต่อสู้กับอิสราเอล”   ซาตานรู้ล่วงหน้าว่า มีงานฟื้นฟู พยายามหาโอกาสที่จะเข้ามา  บางครั้งใช้คนอื่น บางครั้งให้เกิดเรื่องหรืออุบติเหตุขึ้น  ให้ลูกไม่สบาย ตัวร้อนหรือท้องเสีย ไม่ ให้เราไปในงานฟื้นฟู  เพราะมันรู้ว่า เมื่อเราได้รับการฟื้นฟูแล้ว อะไรตามมา  เปโตรรู้เรื่องนี้ล่วงหน้าและกำชับคริสเตียนไว้ว่า “ท่านทั้งหลายจงสงบใจจงระวังระไวให้ดี  ด้วยว่าศัตรูของท่านคือมารวนเวียนอยู่รอบๆ ดุจสิงห์คำรามเที่ยวไปเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้” (1 เปโตร 5.8)
 พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงทำงานมากในงานฟื้นฟู   ในเวลาเดียวกัน มารร้ายก็ทำงานมากด้วย   เพราะฉะนั้น เราจำเป็นต้องอธิษฐาน  พระเยซูตรัสว่า “ผีอย่างนี้จะขับให้ออกไม่ได้เลย เว้นแต่โดยการอธิษฐานเท่านั้น” (มก.9.29)
 
3.  การฟื้นฟูเกิดขึ้นแก่ผู้ที่ถวายเครื่องบูชาและทุ่มเทชีวิต 
            ข้อ 9, 10 ซามูเอลได้ถวายเครื่องเผาบูชาอด่พระเจ้า และร้องทูลต่อพระเจ้าเพื่ออิสราเอล พระเจ้าก็ทรงตอบ  พระเจ้าสู้กับคนฟีลิสเตีย คนฟีลิสเตียพ่ายแพ้แก่อิสราเอล  เมื่อเรานมัสการพระเจ้าอย่างแท้จริงและถูกต้อง และมีชีวิตที่สมกับการนมัสการของเรา  พระเจ้าทรงพอพระทัยที่จะกระทำการฟื้นฟูในชีวิตของเรา
  ถ้าเราจะนมัสการพระเจ้าอย่างแท้จริง มีสิ่งหนึ่งที่มองข้ามไปไม่ได้ ก็คือการเสียสละ   เราต้องเสียสละเวลา แล้วไปร่วมงานฟื้นฟูได้   ทุกคนมีงาน และมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน   แท้จริงพระเยซูยองสละทุกสิ่งเพื่อเราทั้งหลายก่อน  ลงมาในโลก ยอมทนทุกข์ทรมาน และในที่สุดยอมสละชีวิตของพระองค์เพื่อเรา   เราควรยอมสละเวลา มาร่วมในงานฟื้นฟู  พระองค์จะทรงทำการฟื้นฟูในชีวิตของเรา

           เราต้องการการฟื้นฟูของพระเจ้า  เราไม่อยากเหมือนเดิม   อยากจะเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ   พระเจ้าทรางพร้อมที่จะทำการฟื้นฟูชีวิตของเราให้ฟื้นขึ้นมาและมีชีวิตชีวา   พระเจ้าทรงทำงานอยู่เรื่อยๆ โดยไม่หยุด  งานฟื้นฟูเป็นงานเลี้ยงฝ่ายวิญญาณ เพื่อพระสิริของพระเจ้า 
 ให้เราสารภาพบาปของเราและกลับใจเสียใหม่  อธิษฐานอย่างเอาจริงเอาจัง และเสียสละทุกอย่างเพื่อจะมานมัสการพระเจ้าอย่างแท้จริง   เราจะได้รับการฟื้นฟูแน่นอน และชีวิตของเราในแต่ละวันมีชีวิตชีวา