ReadyPlanet.com
dot
dot
แจ้งเพื่อรับข่าวสารจากเรา

dot
dot
ทีรันนัสดอทคอม
dot
bulletสารจากผู้อำนวยการ
bulletประวัติทีรันนัส
bulletติดต่อเรา
bulletแผนที่
bulletสมุดเซ็นเยี่ยม
bulletข่าวสารจากทีรันนัส
dot
หนังสือแยกเป็นหมวดหมู่
dot
bulletหมวด คริสเตียนศึกษา
bulletหมวด การเทศนา
bulletหมวด อธิบายพระคัมภีร์
bulletหมวด คู่มือศึกษาพระคัมภีร์
bulletหมวด ชีวิตคริสเตียน
bulletหมวด เพิ่มพูนคริสตจักร
bulletหมวด การสร้างสาวก
bulletหมวด การประกาศ-มิชชั่น
dot
สำนักพิมพ์ ทีรันนัส
dot
bulletสมัครเป็นสมาชิก
bulletสมัครเป็นผู้แทนจำหน่าย
bulletหนังสือใหม่ล่าสุด
bulletหนังสือขายดีติดอันดับ
bulletหนังสือพิมพ์ซ้ำ
bulletวิธีสั่งซื้อสินค้าจากเรา
bulletศูนย์รับแจ้งสินค้ามีปัญหา
bulletแนะนำร้านหนังสือคริสเตียน
dot
Phon Phaiboon Church
dot
bulletคำเทศนาของศิษยาภิบาล
bulletข่าวสารจากคริสตจักร
dot
เว็บอื่นๆ
dot
bulletLink ลิ้งค์ไปเว็บคริสเตียน
bulletwww.thaichristians.net


องค์การ gpinternational
สหกิจคริสเตียนแห่งประเทศไทย
เว็บข่าวสารคริสเตียนไทย ทั่วฟ้าเมืองไทย ไม่แบ่งแยกคณะ บทความ  คำเทศนา  เรื่องสั้น  บทกลอน  แจกโฮมเพจเพื่อคริสตจักรในท้องถิ่น.... ฟังคำเทษนาออน์ไลน์  ลิ้งค์ไปเว็บต่างของคริสเตียนทั่วโลก   แหล่งซื้อขายของคริสเตียน  สิ่งดีๆที่คุณไม่ควรพลาดในเว็บไทยคริสเ
สมาคมพระคริสตธรรมไทย
คริสตจักรพรไพบูลย์


เทศนาเรื่อง พลังของลิ้น article

ยากอบ 3.1-12
           องค์ประกอบสำคัญประการหนึ่งของชีวิตที่ประสบความสำเร็จ คือวาจา   การพูดเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ที่พระเจ้าทรงประทานแก่เรา   แท้จริง พระเจ้าของเราทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงตรัส   พระองค์ทรงสร้างทุกสิ่งในโลกด้วยพระดำรัสของพระองค์   พระเจ้าผู้ทรงตรัสให้เราพูดด้วย   คนที่มีปากแต่พูดไม่ได้ รู้สึกอย่างไร   ข้าพเจ้าเคยมีประสบการณ์   ได้รับบาดเจ็บที่รากฟัน จึงพูดไม่ได้ประมาณ 2 เดือน  อยากจะพูด อยากจะแสดงความคิดในใจ แต่พูดไม่ได้   ถ้ามีอะไรที่จะพูด ก็ต้องเขียนบนกระดาษ   อยากเทศนา แต่เทศนาก็ไม่ได้  
          ขอบพระคุณพระเจ้าที่พระองค์ทรงโปรดให้เราพูดได้ เราจึงสรรเสริญพระเจ้าได้  อธิษฐานกับพระเจ้าก็ได้   ประกาศเรื่องพระเยซูได้   แสดงความคิดเห็นของเราได้   แบ่งปันและสอนพระคัมภีร์ได้   หนุนใจและให้กำลังใจได้  
          แต่คริสเตียนสมัยยุคแรกบางคนเคยเป็นคนยิว และกระจัดกระจ่ายไปอยู่หลายที่   คนเหล่านี้ไม่ค่อยมีโอกาสที่จะเรียน จึงใช้วาจาไม่ค่อยถูก   ท่านอาจารย์ยากอบ ผู้นำคริสตจักรเยรูซาเล็มในยุคแรกได้เขียนจดหมายฉบับนี้ เพื่อจะสอนเรื่อง  ยากอบจึงเคยเตือนพวกเขาว่า “จงให้ทุกคนไวในการฟัง ช้าในการพูด ช้าในการโกรธ” (1.19) อีกตอนหนึ่งว่า “ถ้าผู้ใดเข้าใจว่าตัวเป็นคนมีธัมมะและมิได้สงบปาก แต่หลอกลวงตัวเอง ธัมมะของผู้นั้นก็ไม่มีประโยชน์” (1.26)   และในบทที่ 3.1 ได้เตือนอีกว่า “อย่าให้เป็นอาจารย์กันมากหลายคนเลย เพราะ ผู้สอนนั้นจะได้รับการพิพากษาที่เข้มงวดกว่าผู้อื่น”   ผู้สอนมีโอกาสที่จะพูดบ่อยมากนัก  แต่ที่นี่คำว่า “อาจารย์” นั้น คงไม่ได้หมายถึงอาจารย์สอนประจำเท่านั้น แต่ก็หมายถึงคริสเตียนคนที่ปรารถนาสอนทุกครั้งโดยเอาตัวเองเป็นมาตรฐานและให้คนอื่นเห็นด้วยกับเขา  ฉะนั้น ในข้อที่ 2 ได้บอกว่า เราทุกคนทำผิดพลาดไปหลายๆอย่าง และความผิดทางวาจาคงอยู่อันดับแรก  
           เป้าหมายสูงสุดของเรา คือเป็นเหมือนพระเยซู  เพราะพระเจ้าสร้างเราตามพระฉายาของพระองค์   พระเยซูทรงปรารถนาให้เราเป็นคนดีรอบคอบ ได้ทรงเทศนาว่า “เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงเป็นคนดีรอบคอบเหมือนอย่างพระบิดาผู้ทรงสถิตในสวรรค์เป็นผู้ดีรอบคอบ”(มัทธิว 5.48)   คนดีรอบคอบมีลักษณะอย่างไร   เราจะเป็นคนดีรอบคอบอย่างไรได้   ยากอบได้บอกว่า “ถ้าผู้ใดมิได้ทำผิดทางวาจา ผู้นั้นก็เป็นคนดีรอบคอบแล้ว” (3.2)   คนดีรอบคอบ คงไม่ได้หมายความว่า ไม่ผิดอะไรเลย หรือไม่มีตำหนิอะไรทั้งสิ้น แต่คงหมายถึงผู้ที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ  คือคนที่ควบคุมลิ้นของตนได้   นั่นเป็นคนดีรอบคอบ   ผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ  คนเหล่านี้สามารถบังคับทั้งตัวไว้ได้ด้วย   ยากอบกำลังพูดถึงพลังของลิ้น หรือความสำคัญของคำพูด  
             หลังจากที่ชนชาติอิสราเอลได้ออกจากประเทศอียิปต์แล้ว ข้ามทะเลแดง และเดินในถิ่นทุรกันดาร   คนยิวมักจะบ่นว่าพระเจ้า บ่นว่าโมเสส ผู้นำของเขา   ในเวลานั้น พระเจ้าตรัสกับคนอิสราเอลผ่านทางโมเสสว่า “เรามีชีวิตอยู่ฉันใด เราจะกระทำสิ่งที่เจ้าทั้งหลายบ่นให้เราได้ยินแก่เจ้าฉันนั้น” (กันดารวิถี 14.28)   เป็นคำที่น่ากลัว    เพราะเราจะพูดอย่างไร พระองค์จะทรงฟังและทำตามคำพูดนั้น   พระเยซูเองได้ทรงตรัสทำนองเดียวกันว่า “เหตุว่าที่เจ้าจะพ้นโทษได้ หรือจะต้องถูกปรับโทษนั้น ก็เพราะวาจาของเจ้า”   กษัตริย์ซาโลมอนได้กล่าวว่า “ท้องจะอิ่มก็จากผลแห่งปากของเขา เขาหนำใจเพราะผลอันเกิดจากริมฝีปากของตน ความตายความเป็นอยู่ที่อำนาจของลิ้นและบรรดาผู้ที่รักมันก็จะกินผลของมัน”(สุภาษิต 18.20-21)
             ยากอบได้ยกตัวอย่างสามอย่างเพื่อจะเน้นถึงพลังของลิ้น  สองประการแรกพูดถึงพลังของลิ้นทางบวก  และประการที่สามทางลบ   ประการแรก ก็คือบังเหียนกับม้า   ถ้าเราเอาบังเหียนใส่ปากม้า มันก็เชื่อฟังเรา เราก็บังคับให้ไปไหนๆได้ทั้งตัว  ประการที่สอง ก็คือหางเสือเล็กๆกับเรือ   ถึงแม้ว่าเป็นเรือใหญ่ และถูกลมแรงพัดแล่นไป เรือก็ยังหันไปมาด้วยหางเสือเล็กๆ ตามใจนายท้ายที่จะให้ไปทางไหน   บังเหียนก็ดี หางเสือก็ดี ล้วนเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆ แต่สามารถบังคับม้าหรือเรือได้   ลิ้นก็เช่นเดียวกัน เป็นอวัยวะเล็กๆ แต่มีพลังมากทีเดียว  การมีพลังมากก็เป็นสิ่งที่ดี เมื่อใช้พลังอย่างถูกต้อง   แต่ถ้าใช้พลังไม่ถูก ก็ทำให้เกิดความเสียหายมาก  
              ยากอบได้ยกตัวอย่างอีกประการหนึ่ง เพื่อให้เราเห็นถึงพลังของลิ้นทางลบว่า เมื่อเราไม่ค่อยควบคุมลิ้นของเรา และใช้ลิ้นไม่ถูก จะเกิดอะไรขึ้น  นั่นคือไฟ   ในข้อ 4 ตอนท้ายบอกว่า “ไฟนิดเดียวอาจเผาป่าใหญ่ให้ไหม้ได้หนอ”  เช่นเดียวกัน ถ้าเราใช้ลิ้นอย่างผิด หรือไม่ควบคุมลิ้นของเรา ลิ้นมักจะทำลายชีวิตของเราทั้งหมด   คนที่พูดค่อนข้างมากก็พูดประมาณ 3หมื่นคำต่อวัน แต่ความสำคัญไม่ได้อยู่ ที่จำนวนคำพูด แต่อยู่ที่ว่า คำพูดที่เราพูดไปนั้นมีอิทธิพลต่อคนอื่นมากน้อยแค่ไหน   นักปรัชญาชาวกรีกคนหนึ่งสั่งคนใช้ให้ทำอาหารที่ยอดเยี่ยมา  คนใช้คนนั้นมี ปัญญา  ทำอาหารด้วยลิ้น และนำอาหารจานนั้นมาบอกว่า “นี่เป็นอาหารยอดเยี่ยม ในบรรดาอาหาร ทุกชนิด เพราะว่าผ่านทางลิ้นนี้ เราสำแดงและขอบคุณสำหรับความ สุขได้  ขับไล่ความโศกเศร้า  ให้ความหมดหวังหมดสิ้นไป  และแบ่งความชื่นชม ยินดีได้ด้วย”
             ภายหลังไม่นาน เขาสั่งคนใช้ให้ทำอาหารอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ให้ทำอาหารร้ายที่สุด   คนใช้คนนั้นได้ทำอาหารด้วยลิ้นเหมือนครั้งที่แล้ว  นำอาหารนั้นมาบอกว่า “นี่คือ อาหารร้ายแรงที่สุด เพราะว่า ด้วยลิ้นนี้ เราได้แช่งด่าคนอื่น ทำให้คนอื่นเสียใจ และทำให้เกิดสงครามในครอบครัว และระหว่างประเทศด้วย” 
การควบคุมลิ้นนั้นคงไม่งาย   สัตว์ทุกชนิด นก และสัตว์ในทะเลก็เลี้ยงให้เชื่องได้ แต่ลิ้นนั้นควบคุมยาก  ไม่มีใครสามารถทำให้เชื่องได้   ถึงอย่างไรก็ตาม ถ้าเราไม่ทำ ผิดพลาดในทางวาจา และให้ลิ้นเชื่อฟังเรา เราต้องเอาบังเหียนใส่ปากของเรา  ไม่ใช่ ครั้งเดียวเท่านั้น  ควรฝึกไปเรื่อยๆ   พระเจ้าก็ทรงทราบว่า การควบคุมลินนั้นยาก พระองค์จึงทรงประทานเครื่องคุมลิ้นสองอย่างแก่เรา   หนึ่ง ฟัน  ฟันแข็งแรงมาก เวลาใดที่คำพูดที่ไม่ดีจะออกมา เราควรขบฟัน ไม่ให้มันออกมาได้ เครื่องคุมลิ้นอีก อย่างหนึ่งก็คือ ริมฝีปาก  ถึงแม้เราพยายามขบฟันทำให้คำพูดที่ไม่ดีนั้นไม่ออกมา แต่ไม่ประสบความสำเร็จ  เราก็ปิดริมฝีปากของเรา   เราควรใช้เครื่องคุมลิ้นสอง อย่างนี้ เรื่อยๆไป  แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เราจำเป็นต้องอธิษฐานกับพระเจ้า เหมือนกษัตริย์ ดาวิดอธิษฐานว่า “ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงตั้งยามเฝ้าปากของข้าพระองค์  ขอรักษา ประตูริมฝีปากของข้าพระองค์” (สดุดี 141.3) 
            ถ้าเราล้มในการควบคุมลิ้นของเรา  ลิ้นกลายเป็นสิ่งชั่วที่อยู่ไม่สุข และเต็มไปด้วย พิษร้ายถึงตาย   แน่นอน ลิ้นเป็นอวัยวะในร่างกายของเราที่พระเจ้าทรงประทานให้  ถ้าเราใช้ลิ้นอย่างถูกและควบคุมให้เชื่อฟังเรา  ลิ้นกลายเป็นยาบำรุงชีวิตของเรา แต่ ถ้าเราใช้อย่างผิด หรือไม่ควบคุมลิ้นอย่างเหมาะสม ลิ้นกลายเป็นยาพิษที่ทำลายชีวิต ของเรา   ภาคใต้ของอเมริกามีงูพิษชนิดหนึ่ง อาจเรียกว่า งูสองก้าว  ถ้าผู้ใดถูกงูสอง ก้าวัวนี้กัดแล้ว คงตายภายในเดินไม่เกินสองก้าว   น่ากลัวมากเลย   ลิ้นที่ไม่อยู่ใต้การ ควบคุม คงน่ากลัวมากกว่างูสองก้าว
            เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว  เรื่องสำคัญที่ต้องตามมา ก็คือ เราควรพูดอะไร   ในข้อ 9 -12 ได้บอกว่า ด้วยลิ้นของเรา เราสรรเสริญพระเจ้า และแช่งด่าพี่น้อง ผู้ซึ่งพระเจ้าทรง สร้างไว้ตามพระฉายาของพระองค์ด้วยกันไม่ได้   คำสรรเสริญและคำแช่งด่าออกมา จากปากอันเดียวกันนั้น ไม่ควร   เพื่อจะย้ำเรื่องนี้ ยากอบได้ยกตัวอย่างสองประการ  ประการแรก คือต้นผลไม้  ต้นมะม่วงออกผลเป็นทุเรียนได้หรือ  ต้นมาละโกออกผล เป็นมะม่วงได้หรือ  ตัวอย่างอีกประการหนึ่ง บ่อน้ำพุ   บ่อน้ำพุเค็มก็ทำให้เกิดน้ำจืด อีกไม่ได้เลย
             คำพูดได้สำแดงถึงลักษณะของผู้พูดหลายอย่าง  เมื่อเราฟังสำเนียงของเขา เราก็ พอรู้ได้ว่า เขาเป็นคนประเทศไหน หรือมาจากภาคไหน  เพราะสำเนียงของแต่ละ ภูมิภาคไม่เหมือนกัน  เมื่อเราฟังคำพูดของผู้ใด เราก็พอรู้ได้ว่า เขาได้รับการศึกษาถึง ระบัดไหน  เขาสนใจเรื่องอะไร ค่านิยมของเขาเป็นอย่างไร  ยิ่งกว่านั้น เมื่อเราฟังคำ พูดของผู้ใด เราก็รู้ได้ว่า จุดปลายทางของเขานั้นที่ไหน  คนที่จะไปในสวรรค์นั้นมัก จะพูดถ้อยคำแห่งสวรรค์ และคนที่จะไปนรกนั้นมักจะพูดถ้อยคำแห่งนรก
              สิ่งที่คริสเตียนไม่ควรทำอันดับแรก อย่าออกพระนามพระเจ้าอย่างไม่สมควร เพราะว่า พระเจ้าทรงลงโทษคนเหล่านั้น (อพยพ 20.7)   คนที่ออกพระนามพระเจ้า อย่างเหมาะสม คงพูดออกมาจากใจ ไม่ใช่ปาก และเชื่อตาม ที่เขาพูด แล้วปฎิบัติตาม ที่เขาพูดและเชื่อ  ถ้าเราร้องเพลงว่า พระเจ้ายิ่งใหญ่  ไม่ใช้ร้องอย่างเดียว แต่เชื่อจริงๆ ว่า พระเจ้ายิ่งใหญ่ ยิ่งกว่านั้น เราควรปฎิบัติอย่างสมกับความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
             อันดับที่สอง อย่าพูดมุสา พูดมุสานั้น พูดไม่จริง พูดแล้ว แต่ไม่ทำตาม   คนที่ พูดมุสาเป็นลูกของมาร   มารเป็นพ่อของการมุสา (ยอห์น 8.44)  คนที่พูดมุสา คงไม่ ได้พูดมุสาต่อมนุษย์ แต่พูดมุสาต่อพระเจ้า  เมื่ออานาเนีย กับสัปฟีราได้เขาย ที่ดินและ เงินค่าที่ดินส่วนหนึ่ง เขาเก็บไว้ และเอาอีกส่วนหนึ่งมาวางไว้กับเปโตร  เปโตรบอก ว่า “อานาเนียเอ๋ย เหตุไฉนซาตานจึงทำให้ใจของเจ้าเต็มไปด้วยการมุสา ต่อพระ วิญญาณบริสุทธิ์และทำให้เจ้าเก็บค่าที่ดินส่วนหนึ่งไว้  ... เจ้ามิได้มุสาต่อ มนุษย์ แต่ได้ มุสาต่อพระเจ้า” (กิจการ 5.3-4)   อานาเนียก็ล้มลงตายทันที สัปฟีรา ภรรยาของเขาก็ ตายไปด้วย   บุคคลที่พูดมุสา จะพินาศ   ครอบครัวที่พูดมุสาก็พินาศ และประเทศที่ พูดมุสาก็พินาศไปด้วย  พูกมุสานั้นรวถงอย่าเป็นพยานเท็จ และอย่าโกงเงินของคนอื่น 
มีองค์การหนึ่งของเกาหลีได้สำรวจคำพูดมุสาของคนเกาหลี  คำพูดมุสานั้นมี หลากหลายตามเพศและตามวัยดังต่อไปนี้   ผู้ชายมักจะพูดมุสาก่อนแต่งงาน อันดับแรก “เมื่อแต่ง งานแล้ว ผมจะทำทุกอย่างให้” อันดับที่สองก็คือ “เธอเป็นคนที่สวยมากที่สุด ในโลกนี้”  ส่วนผู้หญิงมักจะพูดมุสาหลังแต่งงาน อันดับแรก  บอกว่า “ก่อนแต่งงานนี้ ผู้ชายตาม ฉันมาเป็นแถวเลย”  อันดับที่สอง “คุณจะพูดอะไร ฉันจะไม่โกรธ เชิญเถิด”   ส่วนลูก สะไภ ก็บอกว่า “คุณแม่ ทำไมรีบไป พักผ่อนอีกแล้วค่อยๆไปก็ดี” “ขอโทษที่ ให้เงิน น้อย ครั้งต่อไปจะให้มากกว่า”   และคนทำงานในบริษัทมักจะบอกว่า “ขอลา เพราะไม่สบาย”
เราควรพูดความจริง   พูดความจริงก็ดี แต่พูดให้เป็นประโยชน์แก่คนอื่นด้วย   คริสเตียนเราควรใช้คำพูดแห่งความเชื่อ  และพูดถ้อยคำแห่งสวรรค์ คือ ฉันรักคุณ  ขอบ คุณ  ขอโทษ  ขอพระเจ้าอวยพร  สวัสดี
              คุณเป็นคนดีรอบคอบไหม   จะเป็นคนดีรอบคอบได้อย่างไร ให้เราฝึกและควบ คุมลิ้นของเรา   เพราะความตายความเป็นอยู่ที่อำนาจของลิ้น   ให้เราใช้พลังของลิ้น ทางบวกและถูกต้อง  เราจะประสบความสำเร็จได้

 

 




sermon colum 07

ศูนย์รวมคำเทศนา article
คริสตจักรที่ได้ทรงซื้อด้วยพระโลหิต
เทศนาเรื่อง ความเชื่อแห่งอาเมน
ต้องการการฟื้นฟูใหญ่หรือ article
คำเทศนาเรื่อง วิหารของพระเจ้า article
คำเทศนาเรื่อง ครอบครัวของพระเจ้า article
คำเทศนาเรื่อง ทัศนคติของคริสเตียนต่อเงินทอง article
คำเทศนาเรื่อง ทัศนคติของคริสเตียนต่อเงินทอง article
คำเทศนาเรื่อง จงบริหารเวลาอย่างมีปัญญา article
คำเทศนาเรื่อง ฟื้นฟูการนมัสการ article
คำเทศนาเรื่อง ชีวิตใหม่ในพระคริสต์ article
เทศนาเรื่อง ฟื้นฟูด้วยพระวจนะ article
คำเทศนาเรื่อง ความหวังของโลก article
sermon A 07 article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.