สดุดี 67.1-7
เมื่อเราทำอะไรก็ตาม เราก็ทำโดยมีจุดประสงค์ เราทุกคนมีนิมิต มีความฝัน มีชาวนาหนุ่มคนหนึ่ง เขาได้เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน แต่เขามีนิมิต มีความฝัน ความฝันของเขา ก็คืออยากเป็นคนรวย เขาจึงไปซื้อไก่ตัวหนึ่งมาเลี้ยง ไก่ตัวนั้นได้ออกไข เขาเก็บไขไก่นั้นถึง 12 ฟอง แล้วให้ไก่ตัวนั้นอุ้มไข ถึงเวลา ก็ได้เห็นลูกไก่ ได้เลี้ยงลูกไก่ให้โต แล้วเอาไปขาย และซื้อลูกหมูตัวหนึ่งมาเลี้ยง เมื่อลูกหมูเป็นหมูตัวใหญ่ ก็เอาไปขาย และซื้อวัวตัวเล็กตัวหนึ่งมาเลี้ยง เมื่อโตแล้วเอาไปขาย และได้ซื้อนาพื้นเล็กพื้นหนึ่ง ทำนา ในที่สุด เขาเป็นคนรวย ความฝันของเขาได้กลายเป็นความจริง นึ่เป็นเรื่องที่ข้าพเจ้าได้ยินเมื่อยังเป็นเด็กเล็กๆ
พี่น้องคิดว่า พระเจ้ามีนิมิต มีพระประสงค์ของพระองค์ในการสร้างโลกนี้ไหม อะไรเป็นพระประสงค์ของพระองค์ พระประสงค์ของพระเจ้าในการสร้างโลกนั้น คือให้บรรดาประชาชาติสรรเสริญพระเจ้า พระคัมภีร์ทั้งเล่มได้เปิดเผยถึงพระประสงค์ของพระเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้เขียนสดุดี บทที่ 67 กำลังพูดถึงพระประสงค์ของพระองค์อย่างชัดเจน สดุดีบทนี้เป็นบทเพลง เป็นคำสรรเสริญ และเป็นคำอธิษฐาน ได้เปิดเผยให้เห็นอย่างชัดเจนว่า พระประ สงค์ของพระเจ้าในการสร้างโลกนั้น คือให้บรรดาประชาชาติสรรเสริญพระเจ้า พระเจ้าทรงทำอะไรบ้างเพื่อให้พระประสงค์ของพระองค์นั้นได้บรรลุผล
1. พระเจ้าทรงอวยพระพรเรา (1)
ขอพระเจ้าทรงพระเมตตาต่อข้าพระองค์ทั้งหลาย และอำนวยพรแก่ข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงให้พระพักตร์ฉายสว่างแก่ข้าพระองค์ ข้อนี้เป็นเหมือนคำอวยพรของพวกปุโรหิต ซึ่งปรากฎอยู่ในกันดารวิถี 6.24-26 ตามที่พระเจ้าทรงบัญชาแก่โมเสส คำว่า พระพักตร์ฉายสว่าง หมายถึง การทรงสถิตของพระเจ้า พระเจ้าทรงอวยพรอับราฮัม และเชื้อสายของอับรา-ฮัม คือชนชาติอิสราเอล พระคัมภีร์ตั้งแต่ปฐมกาลแสดงให้เห็นว่า พระเจ้าทรงอวยพรอิสราเอลอย่างไร เพราะพระเจ้าทรงเป็นแหล่งพระพร
พระคัมภีร์กล่าวไว้ว่า พระเจ้าทรงอวยพรฝ่ายวิญญาณเรานานาประการ อจ.เปาโลได้บรรยายอย่างชัดเจนในพระธรรมเอเฟซัสว่า พระพรฝ่ายวิญญาณที่พระเจ้าทรงประทานแก่เรานั้น มีสามประการ ประการแรก พระเจ้า พระบิดาได้ทรงเลือกเราก่อนเริ่มสร้างโลก ประการที่สอง พระเยซูคริสต์ได้ทรงยกโทษความผิดบาปของเราโดยพระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ที่กางเขนแทนเราเป็นค่าไถ่บาป ประการที่สาม พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงผนึกตราเราไว้เป็นมัดจำ เราจึงได้รับความรอด นี่เป็นพระพรฝ่ายวิญญาณที่พระองค์ทรงประทานแก่เรา
2. พระเจ้าทรงใช้เราไปประกาศความรอดแก่ประชาชาติ (2)
เพื่อพระมรรคาของพระองค์จะเป็นที่รู้จักในแผ่นดินโลก ความรอดของพระองค์จะเป็นที่ทราบท่ามกลางบรรดาประชาชาติทั้งสิ้น ข้อ 2 นี้ เริ่มต้นด้วยคำว่า เพื่อ คำนี้แสดงถึงจุดประสงค์ พระเจ้าทรงอวยพรชนชาติอิสราเอลโดยมีจุดประสงค์สองประการ หนึ่ง เพื่อพระมรรคาของพระองค์จะเป็นที่รู้จัก สอง เพื่อความรอดของพระองค์เป็นที่ทราบท่ามกลางบรรดาประ ชาชาติ ไม่ใช่ให้คนอิสราเอลได้รับพระพรจากพระเจ้าแล้ว อยู่ดีกินดีเท่านั้น
เมื่อพระเจ้าทรงอวยพรอับราฮัม ไม่ใช่เพราะเห็นแก่อับราฮัมเท่านั้น แต่เพราะเห็นแก่ชนทุกชาติในโลกนี้ พระเจ้าทรงอวยพรอับราฮัมให้เป็นท่อพระพร ให้ชนทุกชาติในโลกนี้ได้รับพระพรของพระเจ้าเพราะอับราฮัม
คัมภีร์บอกว่า เราจะมอบให้เจ้าเป็นความสว่างแก่บรรดาประชาชาติ เพื่อความรอดของเราไปถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก(อิสยาห์ 49.6ข) พระเจ้าทรงโปรดให้เราเป็นความสว่างของโลก ให้เราออกไปประกาศเรื่องความรอดของพระเจ้าไปถึงทึ่สุดปลายแผ่นดินโลก
พระเยซูตรัสว่า ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก (มัทธิว 5.14) และพระเยซูองค์นี่แหละ ตรัสแก่เราก่อนเสด็จขึ้นไปสู่สวรรค์ว่า ท่านทั้งหลายจะได้รับพระราชทานฤทธิ์เดช เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นพยานฝ่ายเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่งแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก(กิจการ 1.8) นี่คือ พระมหาบัญชาที่พระเยซูได้ทรงประทานแก่เราทุกๆคน ซึ่งเราทุกคนต้องเชื่อฟัง ไม่ยกเว้น ไม่ว่าเราเป็นอย่างไรก็ตาม ต้องมีส่วนในการทำตามพระมหาบัญชานี้
3. พระเจ้าทรงให้ชนชาติทั้งลหายสรรเสริญพระเจ้า (3-5)
ข้าแต่พระเจ้า ขอชนชาติทั้งหลายสรรเสริญพระองค์ ให้ชนชาติทั้งหลายสรรเสริญพระองค์...เมื่อเราสังเกตพระคัมภีร์ข้อเหล่านี้ ก็เห็นได้ว่า วลีนี้ปรากฎขึ้นหลายครั้ง คือ ให็ชนชาติทั้งหลายสรรเสริญพระเจ้า พระเจ้าทรงสร้างโลกและสิ่งทั้งปวงที่อยู่ในโลกนี้ รวมทั้งมนุษย์เราเพื่อพระ องค์เอง พระประสงค์ของพระองค์ของการสร้างโลกของพระเจ้านั้น เพื่อให้มนุษย์สรรเสริญพระองค์ พระคัมภีร์กล่าวไว้ว่า คือชนชาติที่เราปั้นเพื่อเราเอง เพื่อเขาสรรเสริญเรา(อิสยาห์ 43.21) พระเจ้าได้ทรงสร้างเราให้มนุษย์เราสรรเสริญพระองค์
เป็นครั้งแรกที่พระคัมภีร์บันทึกไว้ว่า ชนชาติอิสราเอลได้สรรเสริญพระเจ้าเมื่อพวกเขาได้รอดพ้นจากการเป็นทาส ช่วงเวลาที่พวกอิสราเอลยังอยู่ในอียิปต์นั้น พวกเขาไม่ได้สรรเสริญพระเจ้า ไม่รู้จักการสรรเสริญพระเจ้าเลย แต่เมื่อพวกอิสราเอลได้อพยพจากอียิปต์ และข้ามทะเลแดงแล้ว โมเสสกับชนชาติอิสราเอลร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า เนื้อเพลงได้ถูกบันทึกไว้ในอพยพบทที่ 15 มิเรียม พี่สาวของโมเสสก็ร้องนำ (อพยพ 15.21)
เมื่อพระเยซูจะเสด็จกลับมาและเราไปอยู่กับพระองค์ในแผ่นดินสวรรค์ ก็มีแต่การสรรเสริญพระเจ้า ต่อจากนั้นมา ข้าพเจ้าก็มองดู และดูเถิด คนมากมายเหลือคณนามาจากทุกเผ่าพันธุ์ ทุกชาติ ทุกภาษา... คนเหล่านั้นร้องเสียงดังว่า ความรอดขึ้นอยู่กับพระเจ้าของเรา... (วิวรณ์ 7.9-10) เพราะพระเจ้าทรงโปรดให้ชนชาติทั้งหลายสรรเสริญพระเจ้าแล้ว
4. พระเจ้าทรงให้แผ่นดินเกรงกลัวพระองค์ (6-7)
... พระเจ้าของเราทรงอำนวยพระพรแก่เราแล้ว ให้ที่สุดปลายแผ่นดินโลกเกรงกลัวพระองค์
เมื่อทุกคนทั่วโลกได้ยินข่าวประเสริฐของพระเยซูและรับเชื่อพระองค์ คนเหล่านี้จะได้รับความรอด และรู้ว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้ที่น่าเกรงกลัว ในข้อนี้ มีคำที่น่าสังเกต ก็คือ ที่สุดปลายแผ่นดินโลก พระเจ้าทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก พระองค์ทรงครอบครองทั่วโลกด้วยความยุติธรรม พระ องค์ทรงควบคุมประวัติของทั้งโลก และพระองค์จะทรงพิพากษาทั้งโลกเมื่อพระเยซูจะเสด็จกลับมา เพราะเหตุนี้ พระเจ้าทรงเป็นผู้ที่น่าเกรงกลัวของทุกคนทั่วโลก
พระคัมภีร์ใช้คำว่า ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ประชาชาติทั้งหลาย ที่สุดปลายแผ่นดินโลก มนุษย์ทั้งปวง ทุกสิ่งที่หายใจ ชนชาติทั้งหลาย ชาวประเทศทั้งหลาย ชนทุกชาติ ทั่วโลก ทุกเผ่าพันธุ์ ทุกชาติ ทุกภาษา เป็นต้น คำเหล่า นี้แสดงให้เห็นถึงพระประสงค์ของพระเจ้า คือ ให้ชนชาติทั้งหลายสรรเสริญพระเจ้า พระประสงค์ของพระเจ้านี้จะบรรลุผลได้ก็ต่อเมื่อเราทำพันธกิจโลก ในเวลานี้ พระเจ้าทรงเรียกเราทุกคนให้มีส่วนในพันธกิจโลก เราจะมีส่วนในพันธกิจโลกอย่างไร ข้าพเจ้าอยากจะนำเสนอสามประการด้วยกัน
1) เอาใจใส่ในพระประสงค์ของพระเจ้า
2) อธิษฐานทุกวันเพื่อพันธกิจโลก
3) ถวายทรัพย์ทุกเดือนเพื่อพันธกิจโลก
เมื่อเรามีส่วนในการทำพันธกิจโลกร่วมกัน ความรอดของพระเจ้าจะเป็นที่รู้จักในท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย และทุกเผ่นพันธุ์ ทุกชาติและทุกภาษาจะสรรเสริญพระเจ้าได้เหมือนพวกเราที่กำลังสรรเสิรญพระองค์