มัทธิว 16.13-18
มีสถาบัน
2 แห่งที่พระเจ้าทรงสถาปนาขึ้น คือสถาบันครอบครัว และสถาบันคริสตจักร สถาบันครอบครัวเป็นสถาบันแรกที่พระเจ้าให้เกิดขึ้นตั้งแต่ยุคของอาดัมและเอวา สรรพสิ่งทั้งปวงในโลกนี้ พระเจ้าได้ทรงสร้างด้วยพระดำรัสสั่งของพระเจ้า แต่มนุษย์นั้น พระเจ้าทรงสร้างและปั้นด้วยผงคลีดินตามพระฉายาของพระเจ้า และสถาบันสองแห่งที่กล่าวมา พระองค์ทรงสถาปนาเพื่อมนุษย์ คริสตจักรก็เป็นอย่างหนึ่งในสองนั้น เหตุฉะนั้นคริสตจักรที่เราจะสร้างนั้น เราต้องสร้างให้ดี
พระเยซูทรงได้ถามสาวกของพระองค์ ว่า คนเหล่านั้นว่าเราเป็นผู้ใด สาวกของพระองค์ตอบว่า บางคนว่า ยอห์นผู้ให้รับบัพติศมา บ้างก็ว่าเอลิยาห์ หรือเยเรมีย์ หรือนหนึ่งในพวกผู้เผยพระวจนะของพระเจ้า แล้วพระเยซูถามสาวกอีกครั้งว่า แล้วพวกท่านทั้งหลายว่าเราเป็นผู้ใด เปโตรตอบว่า พระเยซูทรงเป็นพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ แล้วพระเยซูก็ทรงอวยพรให้เปโตรและบอกว่าพระเจ้าทรงแจ้งให้เปโตรทราบเรื่องนี้ และพระองค์บอกว่า บนศิลานี้ เราจะสร้างคริสตจักรของเราไว้ การสร้างคริสตจักรนั้นต้องคิดดีๆว่า สร้างอย่างไร เราจะสร้างคริสตจักรเองไม่ได้
ประการที่ 1 ให้เราสร้างคริสตจักรไว้บนพระเยซูคริสต์ (1 คร. 3.11 )
อาจารย์เปาโลบอกว่า ศิลา คือพระเยซูคริสต์ พระเยซูจึงเป็นศิลาที่เราจะต้องวางรากคริสตจักรลง เราจะไม่สามารถสร้างคริสตจักรบนรากของนักปราชญา หรือมนุษย์คนหนึ่งคนใดได้ ยกเว้นพระเยซูเท่านั้น
ประการที่ 2 ให้เราสร้างคริสตจักรบนความเชื่อ
ความเชื่อของเราที่เชื่อว่า พระเยซูทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด ศิลาที่พระเยซูตรัสไว้ คงไม่ได้หมายถึงเปโตรเอง แต่หมายถึงความเชื่อของเปโตรที่ได้สารภาพว่า พระเยซูทรงเป็นพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่
มีคำถามว่าใครเป็นเจ้าของคริสตจักร ? พระเยซูตรัสว่า เราจะสร้างคริสตจักรของเราไว้ คำว่า คิสตจักรของเรา หมายความว่า คริสตจักรของพระเยซู ไม่ว่าศิษยาภิบาล ผู้ปกครอง มันายก จะเป็นเจ้าของคริสตจักรก็หามิได้ ไม่มีใครคนใด คนหนึ่งเป็นเจ้าของคริสตจักรเลย แต่ผู้ที่เป็นเจ้าของคริสตจักรนั้น คือพระเยซูคริสต์เพียงพระองค์เดียวเท่านั้น ดังนั้นให้เราคิดเสมอว่า พระเยซูคริสต์ทรงเป็นเจ้าของคริสตจักรเสมอ
คริสตจักรแห่งหนึ่งในประเทศเกาหลี มีผู้ปกครองท่านหนึ่งมีเงินมากและได้ถวายให้คริสตจักร และผู้ปกครองท่านอื่นดีใจมาก และคริสตจักรยินดีที่จะจารึกชื่อผู้ปกครองคนนั้นหน้าอาคารคริสตจักร ปรากฏว่าผู้ปกครองคนนั้นไม่ไปโบสถ์อีกเลย เมื่อศิษยาภิบาลคณะผู้ปกครองไปเยี่ยมและถามว่า ทำไมไม่ไปโบสถ์ ?ผู้ปกครองคนนั้นตอบว่า โบสถ์กลายเป็นของมนุษย์แล้ว ผมจะไม่ไปโบสถ์ของมนุษย์ หลังจากคริสตจักรได้เอาชื่อของผู้ปกครองท่านนั้นออกแล้ว ผู้ปกครองท่านนั้นก็ไปโบสถ์ตามปกติ เพราะผู้ปกครองท่านนั้นถือว่า คริสตจักรนั้นเป็นของพระเยซูคริสต์เพียงพระองค์เดียวเท่านั้นที่เป็นเจ้าของที่แท้จริง และท่านได้ยึดพระเจ้าเป็นที่หนึ่ง ขอให้พี่น้องคริสตจักรพรไพบูลย์ ยึดพระเจ้าเป็นที่หนึ่งด้วย
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เราควรปรนนิบัติคริสตจักรของพระเยซูอย่างไรดี เราควรเรียกท่าทีการรับใช้พระเจ้าของเปาโลจากพระธรรมกิจการ 20.24
1) ควรรับใช้ปรนนิบัติคริสตจักรด้วยความถ่อมใจ อาจารย์เปาโลรับใช้พระเจ้าด้วยความถ่อมใจ คำว่า ถ่อมใจนี้ได้หมายถึง การรู้จักกับพระเจ้า และรู้จักกับตัวเองด้วย คิดว่ามีพี่น้องบางคนเรียนสูง บางคนเรียนต่ำ บางคนร่ำรวย บางคนยากคน บางคนเป็นคริสเตียนมานานแล้ว บางคนรู้พระคัมภีร์มากมายด้วย แต่อย่างไรก็ตาม อย่าอวดตัว เย่อหยิ่ง และจองหอง
2) ควรรับใช้ปรนนิบัติคริสตจักรด้วยน้ำตาไหล อาจารย์เปาโลรับใช้พระเจ้าด้วยน้ำตาไหล การมีน้ำตาไหลไม่ได้หมายความว่า สงสารตัวเองที่ได้รับความเจ็บกายเจ็บใจแต่อย่างใด แต่การมมีน้ำตาไหล คือ การที่คิดถึงพระคุณของพระเจ้าต่างหากที่ทรงมีต่อชีวิตของเราแต่ละคนที่ได้รับใช้พระเจ้า
คริสตจักรที่ผมรับใช้อยู่ในสหรัฐฯ มีผู้ปกครอง 7 ท่าน มีผู้ปกครองท่านหนึ่งได้รับใช้พระเจ้าด้วยน้ำตาไหล ผมถามเขาว่าทำไมน้ำตาไหลบ่อยๆ เขาตอบว่า เมื่อก่อนนั้น เป็นคนบาป และเดี๋ยวนี้เชื่อพระเจ้าแล้ว ได้รับใช้พระเจ้า ในงานพันธกิจของพระเจ้า จึงซาบซึ้งในพระคุณของพระเจ้า หวังอย่างยิ่งให้พี่น้องคริสตจักรพรไพบูลย์ คิดถึงพระคุณพระเจ้า และซาบซึ้งในพระคุณของพระองค์ ให้เรารับใช้พระเจ้าด้วยน้ำตาไหล
3) ควรรับใช้ปรนนิบัติคริสตจักรด้วยการเอาชนะการทดลอง เมื่อเราอ่านพระธรรมกิจการ เราจะสังเกตเห็นได้ว่า อาจารย์เปาโล รับใช้พระเจ้าด้วยการถูกทดลองมากมาย ถูกข่มเหงสารพัดหลายอย่าง แต่ท่านก็รับใช้พระเจ้าด้วยการเอา ชนะการทดลองเหล่านั้นทั้งสิ้นด้วยการพึ่งพาฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า การถูกทดลองของอาจารย์เปาโลนั้นไม่ใช่มาจากคนต่างชาติ แต่มาจากคนชาติเดียว กัน ที่ต่อต้านอาจารย์เปาโล ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม การทดลองเกิดขึ้นได้ในทุกทาง ระหว่างสมาชิกกับสมาชิก ระหว่างคริสตจักรกับคริสตจักร ระหว่างมัคนายกกับมัคนายกด้วยกันเองที่ถูกทดลองอยู่บ่อยๆ ดังนั้นให้เราระมัดระวังไม่ให้คนอื่นสะดุด หรือถูกทดลอง แต่ให้เราเอาชนะการทดลองนั้นๆในพระนามของพระเยซูคริสต์
ขอให้เราสร้างคริสตจักรของพระเยซูบนรากของพระเยซูคริสต์ และบนความเชื่อของเรา และปรนนิบัติคริสตจักรของพระองค์ด้วยความถ่อมใจ ด้วยน้ำตาไหลและด้วยการเอาชนะการทดลองโดยพึ่งอาศัยฤทธิเดชของพระองค์ ฝากให้พี่น้องทุกๆท่านในคริสตจักรพรไพบูลย์ช่วยงานของคริสตจักรกและศิษยาภิบาลด้วย ขอพระเจ้าอวยพระพรให้คริสตจักรพรไพบูลย์เป็นพระพรต่อคนไทยทั่วประเทศไทยต่อไป