กาลาเทีย 5.22-23
ผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ทั้งหมดมีเก้าอย่าง และความดีเป็นอย่างที่หก ศาสนาทุกศาสนาเหมือนกันหมด สอนให้เป็นคนดี เป็นคำที่ข้าพเจ้าได้ยินบ่อยๆ จากพี่น้องคนไทย เมื่อออกไปประกาศข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ คนบางคนที่ไม่เป็นคริสเตียนก็ทำความดีบ้างด้วย
ศาสนาอาจสอนให้เป็นคนดีได้ แต่ที่นี่เกิดคำถามหนึ่ง คือ ศาสนาทำให้เป็นคนดีได้หรือ ถ้าศาสนาทำให้เป็นคนดีได้แล้ว สังคมองเรามีแต่คนดีทั้งนั้น ความดีแท้ คืออะไร ใครเป็นคนดีจริงๆ และเราเป็นคนดีได้หรือ
พระเยซูไม่ได้เพียงสอนให้เป็นคนดีเท่านั้น แต่ทำให้เป็นคนดีด้วย เมื่อเราเชื่อพระเยซู คนนั้นกลายเป็นบุตรของพระเจ้า พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงเปลี่ยนแปลงบุคลิกลักษณะของเขาให้เป็นคนดี ดังนั้น ความดีเป็นผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เมื่อเราดำเนินตามพระวิญญาณบริสุทธิ์ เมื่อเราประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราเป็นคนดีได้
คำว่า ความดีคงหมายถึง ความใจกว้าง ไม่เห็นแก่ตัว หรือ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เป็นการกระทำทางบวกมากกว่าความปรานี
แน่นอน ในโลกนี้ก็มีบางคนที่ยังไม่เชื่อพระเยซู แต่ทำความดี แต่การกระ ทำความดีของคนเหล่านี้กับการกระทำความดีของคริสเตียนนั้น ไม่เหมือนกัน ชาวโลกส่วนใหญ่กระทำความดีด้วยใจที่จะได้บางสิ่งบางอย่าง ครั้งหนึ่ง คนหนุ่มคนหนึ่งมาหาพระเยซูและถามว่า ท่านอาจารย์ ข้าพเจ้าจะต้องทำดีประ การใด จึงจะได้ชีวิตนิรันดร์ (มธ. 19.16) ให้เราฟังดีๆที่เขาพูดว่า ทำดีประ การใด จะได้ชีวิตนิรันดร์ เขาพร้อมที่จะทำดีบางประการ เพื่อจะได้ชีวิตนิ-รันดร์ ดังนั้น ในขณะที่กระทำดี ถ้าไม่ได้สิ่งที่เขาคาดหวัง หรือผิดหวัง จะไม่กระทำความดีอีกเลย หรือมักจะถือว่า การกระทำความดี คือการทำบุญ พูดอีกนัยหนึ่งว่า ทำความดีด้วยความคาดหวัง
แต่ความดีในพระคัมภีร์นั้นไม่เหมือนเลย เรากระทำความดี ไม่ใช่เพื่อจะได้อะไร แท้จริงเราได้รับสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว คือความรอด เราไม่ได้กระทำดี เพื่อจะรอด แต่เราได้กระทำดี เพราะได้รับความรอดของพระเจ้าแล้ว
1. พระเจ้าเท่านั้นประเสริฐ
ธรรมิกชนในสมัยพันธสัญญาเดิมรู้จักพระเจ้าอย่างดีและถูกต้อง เมื่อพวกเขาสรรเสริญพระเจ้าในเพลงสดุดี เขามักจะร้องบ่อยๆว่า จงโมทนาขอบ พระคุณพระเจ้า เพราะพระองค์ประเสริฐ ... เพลงที่เราชอบและร้องบ่อยๆ ก็คือ พระเจ้าแสนดี เมื่อเราดูเนื้อเพลงนี้ในภาษาอังกฤษ ก็คือ God is so good God is so good God is so good Hes so good to me พระเจ้าประเสริฐต่อเราจริงๆ และทรงประเสริฐต่อเราเสมอโดยไม่เปลี่ยนแปลง พระเยซูได้ทรงยืนยันอย่างชัดเจนว่า พระเจ้าเท่านั้นประเสริฐ ในลูกา 18. 18-27 มีเรื่องเศรษฐีหนุ่มคนหนึ่ง เขามาหาพระเยซูและเรียกพระองค์ว่า ท่านอาจารย์ผู้ประเสริฐ... พระเยซูตอบว่า ท่านเรียกเราว่าประเสริฐทำไม ไม่มีใครประเสริฐ เว้นแต่พระเจ้าองค์เดียว...
พระคัมภีร์ได้บอกไว้ว่า ไม่มีผู้ใดเป็นคนชอบธรรมสักคนเดียว ไม่มีเลย เขาทุกคนหลงผิดไปหมด เขาทั้งปวงเลวทรามเหมือนกันสิ้น ไม่มีสักคนเดียวที่กระทำดี ไม่มีเลย (รม.3.10, 12) ไม่มีมนุษย์สักคนที่เป็นคนดี
พระเจ้าผู้ประเสริฐทรงยินดีที่จะสำแดงความประเสริฐของพระองค์แก่คนที่แสวงหาพระองค์ พระคัมภีร์บอกว่า พระเจ้าทรงดีต่อคนทั้งปวงที่คอยท่าพระองค์อยู่ และทรงดีต่อคนที่แสวงพระองค์(บพค.3.25) ขอให้จิตใจของเราเต็มด้วยความประเสริฐของพระเจ้า เพราะเรามักจะกระทำสิ่งที่อยู่ภายในใจ
2. เราเป็นบุตรของพระเจ้า
พระเจ้าผู้ประเสริฐได้ทรงเรียกร้องให้บุตรของพระเจ้าทุกคนเป็นคนดี และให้กระทำความดี เราไม่ได้รับวิญญาณของโลกนี้ แต่เราได้รับวิญญาณของพระเจ้า คือ พระวิญญาณบริสุทธิ์ เราไม่ได้เป็นฝ่ายซาตาน แต่เป็นฝ่ายพระเจ้า พระคัมภีร์บอกว่า ผู้ที่ทำดีก็เป็นคนของพระเจ้า ผู้ที่ทำชั่วก็ไม่เห็นพระเจ้า (3 ยน. 1.11)
เราได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการกระทำดี เพราะว่าเราเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ ที่ทรงสร้างขึ้นในพระเยซูคริสต์เพื่อให้ประกอบการดี ซึ่งพระเจ้าได้ทรงดำริไว้ล่วงหน้าเพื่อให้เรากระทำ (อฟ.2.10) พระเยซูได้ทรงประทานพระองค์เองให้แก่เราเพื่อให้เราทำการดีด้วย ผู้ได้ทรงโปรดประทานพระองค์เองให้เรา เพื่อไถ่เราให้พ้นจากการอธรรมทุกอย่าง และทรงชำระเราให้บริสุทธิ์ เพื่อให้เป็นหมู่ชนพิเศษเฉพาะของพระองค์ และเป็นคนที่ขวนขวายกระทำการดี (ทต. 2.14) เปาโลหนุนใจให้ทิโมธีกำชับคริสเตียนให้กระทำดี และให้กระทำดีมากๆ ด้วยซ้ำ(1ทธ.6.18)
เราควรหนีการชั่ว และกระทำการดี ไม่เพียงแค่นั้น แต่ควรประพฤติให้เป็นแบบอย่างในการกระทำการดีทุกสิ่ง พระคัมภีร์ได้เตือนเราว่า เหตุฉะนั้นผู้ใดรู้ว่าอะไรเป็นความดีและไม่ ได้กระทำ คนนั้นจึงมีบาป(ยก.4.17) การนมัสการที่พระเจ้าพอพระทัยนั้น คือการกระทำการดี และแบ่งปันข้าวของซึ่งกันและกัน (ฮบ. 13.16)
วิธีการประกาศที่เกิดผล คือประกาศด้วยชีวิต ถ้าชีวิตของเราเกิดผลของความมืด คงไม่สามารถดึงความสนใจของคนอื่นได้ แต่ถ้าเราเกิดผลของความสว่าง เราสมารถดึงความสนใจของคนเป็นอันมาก เราไม่ได้เป็นลูกของความมืด เราเป็นลูกของความสว่าง เราจึงควรเกิดผลของความสว่าง ผลของความสว่างนั้น คือ ความดีทุกอย่างและความชอบธรรมทั้งมวลและความจริงทั้งสิ้น (อฟ.5.9) พระเยซูได้ทรงเทศนาบนภูเขาว่า จงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาได้เห็นความดีที่ท่านทำ เขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่าน ผู้ทรงอยู่ในสวรรค์ (มธ. 5.16)
พระเจ้าทรงใช้คนแบบนี้ บารนาบัสที่ปรากฎอยู่ในพระธรรมกิจการเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้ เมื่อเกิดการข่มเหงที่กรุงเยรูซาเล็มเนื่องจากสเทเฟน พี่น้องคริสเตียนก็กระจัดกระจายไป และบางคนไปยังเมืองอันทิโอกในแคว้นซีเรีย และประกาศข่าวประเสริฐของพระเยซูที่นั่น คนเป็นอันมากกลับมาเชื่อในพระเยซู นี่เป็นจุดเริ่มต้นของคริสตจักรอันทิโอก ข่าวนี้ก็เล่าลือไปยังคริสต- จักรในกรุงเยรูซาเล็ม และผู้นำคริสตจักรเยรูซาเล็มได้เลือกและใช้บารนาบัสให้ไปยังเมืองอันทิโอก ทำไมบารนาบัส เพราะพระคัมภีร์บันทึกไว้ว่า บาร-นาบัสเป็นคนดี ประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และความเชื่อ(กจ.11.24) บารนาบัสเป็นคนดี ก็เพราะเขาได้ประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และความเชื่อ เมื่อเขาเป็นคนดีแล้ว ผลที่ตามา คือ จำนวนคนเป็นอันมากก็เพิ่มเข้ามาในคริสตจักร (กจ.11.24) เมื่อบารนาบัสไปยังเมืองอันทิโอกแล้ว คงไม่ได้ทำอะ ไรมาก คงไม่ได้เทศนา ไม่ได้ทำการอัศจรรย์ หรือไม่ได้พูดภาษาแปลกๆ แต่ พระคัมภีร์บอกว่า บารนาบัสได้เตือนผู้เชื่อใหม่ในเมืองอันทิโอกให้ตั้งใจมั่นคงติดสนิทอยู่กับพระเจ้า (กจ.11.23) คำว่า เตือนที่นี่ หมายถึง หนุนน้ำใจ แท้จริง ชื่อเดิมของบารนาบัสนั้น คือโยเซฟ แต่เขาเป็นคนดี หนุนใจคนอื่นมาก มาย อัครสาวกจึงตั้งชื่อของเขาให้ว่า บารนาบัส แปลว่า ลูกแห่งการหนุนน้ำ ใจ (กจ.4.36) บารนาบัสคงหนุนใจผู้เชื่อใหม่ในเมืองอันทิโอกอย่างอบอุนว่า แม้ยากลำบาก ให้เราอดทน และรอคอยพระองค์สักครู่ เพราะพระองค์จะเสด็จมาเร็วๆนี้ คนเหล่านั้นได้รับกำลังใจ และนำคนอื่นๆเป็นอันมากมาโบสถ์
เมื่อเราเกิดผลแห่งความดี และกระทำการดี ผลอันดีได้บังเกิดขึ้นในคริสตจักรอย่างมากมายเพราะเรา บรรยกาศในคริสตจักรก็จะเปลี่ยนไป เราจะเป็นท่อพระพรของพระเจ้า ทำให้พระพรของพระเจ้าไหลไปสู่คนอื่นทั้งในและนอกคริสตจักร คริสตจักรของพระเจ้าต้องการคนแบบนี้ เหมือนบารนาบัส ขอให้เราเป็นคนดี และกระทำการดีทั้งปวง
ต่อไปนี้ ีเป็นข้อคิดเห็นสำหรับการกระทำการดีตามที่พระคัมภีร์บอกไว้
ก) ควรกระทำความดีด้วยใจที่พึ่งพระเจ้า (สดด.37.3) ถ้าเราทำการดีด้วยความพยายามของตน หรือด้วยกำลังของตน การ
กระทำการดีนั้นไม่เป็นผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ และไม่เป็นประโยชน์แก่คริสตจักรเลย
ข) ไม่ควรเมื่อยล้า หรืออ่อนใจในการทำดี เพราะว่าถ้าเราไม่ท้อใจแล้ว เราก็จะเกี่ยวเก็บในเวลาอันสมควร (กท.6.9) อย่า
อ่อนใจที่จะกระทำการดีเลย ( 2 ธส. 3.13)
ค) ควรฉวยโอกาสในการทำดี เหตุฉะนั้นเมื่อเรามีโอกาส ให้เราทำดีต่อคนทั้งปวง และเฉพาะอย่างยิ่งต่อครอบครัวที่มี
ความเชื่อ (กท.6.10)
ง) การได้รับความทุกข์เพราะทำความดีนั้นเป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า ( 1 ปต.3.17)
ขอให้เราระลึกถึงพระคุณอันใหญ่หลวงของพระเจ้าที่ได้ทรงช่วยเราให้รอดพ้นจากความบาปและความตาย และทรงรับเราเป็นบุตรของพระองค์ พระเจ้า พระบิดาของเราทั้งหลายทรงเป็นผู้ประเสริฐ และทรงกระทำสิ่งดีแก่เรา พระ องค์ทรงประสงค์ให้บุตรทั้งหลายของพระองค์เป็นคนดี พระองค์จึงทำงานในจิตใจของเราผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้เราเป็นคนดี ไม่ว่าเราเป็นใคร เป็นอย่างไรก็ตาม ถ้าเราดำเนินตามพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราก็เป็นคนดีได้ ไม่ใช่ด้วยความพยายามของเราเอง หรือด้วยกำลังของเราเอง แต่ด้วยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ขอพระเจ้าทรงอวยพรพี่น้องให้เกิดผลแห่งความดีอย่างมากมาย