วันนี้เป็นวันแม่ที่ระลึกถึงพระคุณของคุณแม่ ขอพระเจ้าทรงอวยพรผู้เป็นคุณแม่ทุกท่าน
       บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ลอนดอนคนหนึ่งได้ยื่นบัญชีรายชื่อของบรรดาครูของวินสตัน ชอชีลล์ให้ท่านรับรอง ชอชีลล์ได้คืนบัญชีรายชื่อพร้อมกับข้อความที่เขียนไว้ว่า “ท่านได้ละเลยที่จะระบุชื่อครูยิ่งใหญ่ของผม – คุณแม่ของผม” นี่เป็นความจริงที่คุณแม่เป็นครูคนแรกและครูยิ่งใหญ่สำหรับลูก เพราะฉะนั้น มารดาควรได้รับเกียรติจากลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มารดาแห่งความเชื่อ เพราะมารดาแห่งความเชื่อมีบุญคุณแก่ลูกทั้งฝ่ายร่างกายและจิตวิญญาณด้วย

        เมื่อเรามองดูประวัติของอิสราเอล มีหลายคนที่มีบทบาทสำคัญ แต่คนหนึ่งที่เราละเว้นไม่ได้ ก็คือซามูเอล ซามูเอลเป็นผู้วินิจฉัยคนสุดท้ายและผู้เผยพระวจนะคนแรก ซามูเอลได้เจิมกษัตริย์ยิ่งใหญ่สององค์ของอิสราเอล คือซาอูล กับดาวิด ซามูเอลได้ปฎิรูปศาสนาจากการนับถือพระอื่นๆและรูปเคารพมาสู่ความยำเกรงพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ ซามูเอลได้ทำการฟื้นฟูจิตวิญญาณของชนชาติอิสราเอลที่เมืองมิสปาห์ ทั้งเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าและผู้นำประเทศที่ยอดเยี่ยมและไม่มีที่ติเลย
        มีสาเหตุอะไรที่ทำให้ซามูเอลเป็นเช่นนี้ ใครสั่งสอนซามูเอล ใครอยู่เบื้อง หลัง แน่นอน นั่นคือ มารดาของท่านนั้นเอง คือฮันนาห์ พูดอีกนัยหยึ่ง ความเชื่อของฮันนาห์ทำให้มีซามูเอล
        พวกเราทั้งหลายในวันนี้ก็เช่นเดียวกัน พวกเราเป็นอยู่อย่างที่เป็นอยู่ในวันนี้ ก็เนื่องด้วย 1) พระคุณของพระเจ้า และ 2) พระคุณของคุณแม่ เราจึงควรใช้หนี้พระคุณของคุณแม่ เราจะใช้หนี้พระคุณของคุณแม่ได้อย่างไร คงมีวิธีหลายอย่าง มอบดอกไม้หรือของขวัญ พาไปเที่ยว เลี้ยงอาหารพิเศษ คนส่วนใหญ่ก็กระทำกันสิ่งเหล่านี้ในวันแม่หรือวันเกิดของคุณแม่เท่านั้น เราน่าจะทำสิ่งเหล่านี้ แต่ไม่ควรหยุดแค่นี้ เราน่าจะให้เกียรติแก่มารดาของเราตลอดเวลาโดยการระลึกถึงบุญคุณของคุณแม่อย่างลึกซึ้ง และยิ่งกว่านั้น สตรีในพวกเราก็เป็นแม่ หรือจะเป็นแม่ในวันข้างหน้า ฉะนั้นเราควรให้บุญคุณเหล่านี้แก่ลูกของเรา อะไรเป็นบุญคุณของคุณแม่ที่เราควรระลึกถึง ขอให้เราศึกษาเรื่องนี้จากฮันนาห์ มารดาแห่งความเชื่อของซามูเอล

1. ความอดทน
         ฮันนาห์เป็นมารดาแห่งความเชื่อเพราะได้อดทนนาน มารดาของเราเป็นคนของความอดทน ข้อ 10 กล่าวไว้ว่า “นางเป็นทุกข์ใจมาก ... ร้องไห้คร่ำครวญ” ในข้อ 11 ฮันนาห์ได้อธิษฐานกับพระเจ้าว่า “...ถ้าพระองค์ทอดพระเนตรความทุกข์ใจของผู้รับใช้ของพระองค์จริงๆ” ในข้อที่ 15 ฮันนาห์ตอบกับเอลี ปุโรหิตว่า “... ดิฉันเป็นหญิงที่มีทุกข์หนัก” ข้อเหล่านี้ให้เห็นว่า ฮันนาห์มีความทุกข์ใจ ไม่ใช่เพราะยากจน หรือสามีไม่รัก หรือเจ็บป่วย จริงๆแล้ว ฮันนาห์มีเกือบทุกสิ่งที่คนอื่นมี ทรัพย์สมบัติ ความรักของสามี เป็นต้น “ท่าน(สามี)แบ่งให้ฮันนาห์สองส่วนเพราะท่านรักนางมาก”(1.5) แต่มีสิ่งหนึ่งที่ขาดไป คือไม่มีมีลูก สามีของเขา ชื่อเอลคานา มีภรรยาสองคน นอกจากฮันนาห์แล้ว ภรรยาอีกคนหนึ่งชื่อว่า เปนิน-นาห์ ทุกปีที่ครอบครัวของฮันนาห์ได้ขึ้นไปยังพระนิเวศของพระเจ้า คู่ของฮัน-นาห์ก็ยั่วเย้าฮันนาห์ ฮันนาห์จึงทุกข์ใจมากจนร้องไห้ไม่รับประทานอาหาร ฮันนาห์ไม่ได้ละบายควาทุกข์ใจนี้แก่คนหนึ่งคนใด แต่ได้ละบายความในใจของตนออกต่อพระเจ้าโดยการอธิษฐาน ฮันนาห์เป็นหญิงที่อดทนนาน
         โดยปกติแล้ว มีมากมายที่มารดาอดทนนานในการเลี้ยงดูลูก เมื่อหญิงตั้ง ครรภ์แล้ว ต้องอดทนถึงเก้าเดือน ก็จะคลอด ช่วงที่คลอดก็ต้องอดทนความเจ็บปวด พระคัมภีร์บอกว่า “พระองค์ตรัสแก่หญิงนั้นว่า เราจะเพิ่มความทุกข์ลำบากขึ้นมากมายในเมื่อเจ้ามีครรภ์และคลอดบุตร...”(ปฐก.3.16) หลังจากคลอดแล้ว คุณแม่ต้องอดทนอย่างต่อเนื่อง อดทนทุกอย่างเพราะแม่รักลูก
         ขอให้เราระลึกถึงความอดทนของคุณแม่ ความอดทนของคุณแม่ก็เป็นบทเรียนสำหรับการดำเนินชีวิตของเราด้วย ความอดทนเป็นคุณความดีสำหรับคริสเตียน เป็นของผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ดังนั้น ในการกระทำทุกอย่าง ขอให้เราอดทนนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราควรเลี้ยงลูกของเราด้วยความอดทน

2. คำอธิษฐาน
         ฮันนาห์เป็นมารดาแห่งความเชื่อเพราะเมื่อมีความทุกข์ใจ ไม่ได้ทะเลาะกับคู่ของตน ไม่ได้บ่นว่าสามีด้วย แต่ได้คุกเข่าลงอธิษฐานกับพระเจ้า คนของความเชื่อที่ปรากฎในพระคัมภีร์มักจะเอาชนะความทุกข์ด้วยการอธิษฐาน ข้อ 11 เป็นคำอธิษฐานของฮันนาห์ ได้อธิษฐานขอลูกชายสักคนหนึ่ง แต่ไม่ได้อธิษฐานเฉยๆ แต่อธิษฐานด้วยน้ำตาไหล อธิษฐานด้วยอดอาหาร อธิษฐานนาน และอธิษฐานด้วยการสาบานว่า “แต่จะทรงประทานบุตรชายแก่ผู้รับใช้ของพระองค์สักคนหนึ่ง แล้วข้าพระองค์จะถวายเขาไว้แด่พระเจ้าตลอดชีวิตของเขา และมีดโกนจะไม่แตะต้องศีรษะของเขาเลย”
          ฮันนาห์คงเข้าใจว่า ถ้าพระเจ้าไม่ทรงโปรด คงไม่มีโอกาสที่จะมีลูก ถ้ามีโอกาสที่จะมีลูก เป็นลูกที่ได้โดยการอธิษฐาน ไม่ใช่เป็นลูกของตน แต่เป็นลูกของพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงประทานให้ ฉะนั้นฮันนาห์ได้อธิษฐานด้วยการสาบานว่าจะถวายลูกไว้แด่พระเจ้า
          มารดาแห่งความเชื่อเป็นมารดาแห่งการอธิษฐาน คำอธิษฐานของมารดาเป็นเหมือนปุ๋ยสำหรับลูก ลูกจึงเจริญเติบโตขึ้นด้วยคำอธิษฐานของมารดา คริสเตียนส่วนใหญ่ยอมรับว่า ตนมีชีวิตอยู่ได้โดยคำอธิษฐานของคุณแม่ คำอธิษฐานของคุณแม่เป็นเหมือนเมล็ด ตกในชีวิตของลูก งอกขึ้นมา เติบโต แล้วในที่สุดได้เกิด ผลมากมายในชีวิตของลูก เมื่อคุณแม่ของข้าพเจ้ายังมีชีวิตอยู่ คุณแม่มีกระดาษแผนหนึ่งที่ได้เขียนชื่อคริสตจักร ซึ่งคุณแม่อธิษฐานเผื่อ ในรายชื่อนั้น คริสตจักรพรไพบูลย์ก็อยู่ด้วย เมื่อคุณแม่ตาย อ.เอเกียง ภรรยากับข้าพเจ้าได้บอกว่า เราได้เสียผู้สนับสนุนด้วยการอธิษฐานที่แน่นอนคนหนึ่ง ให้เราระลึกถึงคำอธิษฐานคุณแม่ของเรา และอธิษฐานเผื่อลูกของเราและเผื่อคนอื่นๆ ด้วย คำอธิษฐานของคุณแม่มีอิทธิพลต่อชีวิตของเรามากฉันใด คำอธิษฐานของเราก็มีอิทธิพลต่อชีวิตของคนอื่นและลูกของเรามากฉันนั้น ถ้าเราอธิษฐานเผื่อลูกของเรา ลูกของเราจะไม่หลงทางไปทำผิด ถึงแม้ว่าหลงทางไปทำผิด ก็จะกลับมาเร็วๆนี้แน่นอน

3. ความซื่อสัตย์
       ฮันนาห์เป็นมารดาแห่งความเชื่อ เพราะเขาเป็นคนสัตย์ซื่อ ได้กระทำตามที่สาบานกับพระเจ้าไว้ ก่อนอธิษฐาน เขารู้สึกทุกข์ใจ จึงร้องไห้ไม่รับประทานอาหาร แต่เมื่ออธิษฐานกับพระเจ้า และผู้รับใชัของพระเจ้า คือเอลี ปุโรหิตได้อวยพรว่า “จงกลับไปเป็นสุขเถิด ขอพระเจ้าแห่งอิสราเอลโปรดประทานตามที่เจ้าได้อธิษฐานทูลขอต่อพระองค์นั้น” (1. ซมอ. 1.17) ฮันนาห์ก็ได้เชื่อคำอวยพรของปุโรหิต จึงลุกขึ้นไป รับประทานอาหาร และใบหน้าของเขาไม่โศกเศร้าอีกเลย พระเจ้าได้ทรงระลึกถึงฮันนาห์ ถึงเวลา พระเจ้าทรงโปรดให้ฮันนาห์ตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายคนหนึ่ง และตั้งชื่อว่า ซามูเอล ซึ่งหายความว่า “ได้ขอมาจากพระเจ้า” หรือ “พระเจ้าทรงสดับฟัง” เมื่อซามูเอลหย่านม ฮันนาห์ก็ไม่ลังเลใจ ได้พาซามูเอลขึ้นไปยังพระนิเวศของพระเจ้าที่เมืองซิโลห์ และถวายลูกแด่พระเจ้าตามที่สาบานกับพระองค์ ฮันนาห์บอกกับเอลี ปุโรหิตว่า “ดิฉันอธิษฐานขอเด็กคนนี้ และพระเจ้าประทานตามคำทูลขอของดิฉัน เพราะฉะนั้น ดิฉันจึงให้ยืมเขาไว้แด่พระเจ้าตราบใดที่เขามีชีวิตอยู่...” (1.27-28) ฮันนาห์เป็นคนสัตย์ซื่อจริงๆ รักษาคำสาบานองตน ฝากลูกให้อยู่กับเอลี ปุโรหิตที่พระนิเวศของพระเจ้า ถ้าหากฮันนาห์ไม่ได้รักษาคำสาบาน และไม่ได้ถวายลูกแด่พระเจ้าแล้ว ซามูเอลคงเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง พระเจ้าไม่ได้ทรงใช้เขา พระคัมภีร์ 1, 2 ซามูเอลก็คงไม่มี ชนชาติอิสราเอลคงจะตกอยู่ในความลำบากนาน ขอบพระคุณพระเจ้าที่ทรงประทานฮันนาห์ที่สัตย์ซื่อในการรักษาคำสาบานและถวายลูกไว้แด่พระเจ้า ฮันนาห์ก็เป็นหญิงธรรมดา อยากเลี้ยงดูลูกอย่างใกล้ชิดเหมือนแม่คนอื่น หรืออาจมากกว่านั้นอีกด้วยซ้ำ แต่มีความปรารถนาให้ลูกของตนได้ประสบความ สำเร็จตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ยอมเสียสละ ถวายแด่พระเจ้า และพบลูกปีละครั้งเมื่อขึ้นไปยังพระนิเวศของพระเจ้าเพื่อถวายสัตวบูชาประจำปี
       คุณแม่เป็นคนที่เสียสละทุกอย่างเพื่อลูก พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อลูก จนมีคำพูดว่า หญิงอ่อนแอ แต่แม่แข็งแรง กล้าทำเพื่อลูก เพราะฉะนั้นเราควรระลึกถึงความสัตย์ซื่อของคุณแม่ และควรเป็นแม่ที่สัตย์ซื่อต่อลูกหลานของเรา
       ฮันนาห์เป็นแม่ที่ดีเลิศ เป็นมารดาแห่งความเชื่อ เมื่อมีความทุกข์ ก็อดทนและอธิษฐานกับพระเจ้า และได้ปฎิบัติตามที่สาบานกับพระองค์ เป็นแบบ อย่างที่ดีของคุณแม่

        เราก็ควรคิดถึงคุณแม่ของเรา ในฐานะเป็นลูก เราต้องให้เกียรติแก่คุณแม่ของเราโดยการระลึกถึงความอดทน คำอธิษฐานและความสัตย์ซื่อของคุณแม่ตลอดเวลา ในฐานะเป็นแม่ เราควรเป็นแม่ที่ดี อดทน อธิษฐาน และสัตย์ซื่อ ครอบครัวใดที่มีลูกที่ให้เกียรติแก่แม่ และที่มีแม่ที่อดทน อธิษฐาน และสัตย์ซื่อ ครอบครัวนั้นเป็นสุข พระเจ้าทรงพอพระทัยและอวยพรครอบครัวนั้นแน่นอน