ReadyPlanet.com
dot
dot
แจ้งเพื่อรับข่าวสารจากเรา

dot
dot
ทีรันนัสดอทคอม
dot
bulletสารจากผู้อำนวยการ
bulletประวัติทีรันนัส
bulletติดต่อเรา
bulletแผนที่
bulletสมุดเซ็นเยี่ยม
bulletข่าวสารจากทีรันนัส
dot
หนังสือแยกเป็นหมวดหมู่
dot
bulletหมวด คริสเตียนศึกษา
bulletหมวด การเทศนา
bulletหมวด อธิบายพระคัมภีร์
bulletหมวด คู่มือศึกษาพระคัมภีร์
bulletหมวด ชีวิตคริสเตียน
bulletหมวด เพิ่มพูนคริสตจักร
bulletหมวด การสร้างสาวก
bulletหมวด การประกาศ-มิชชั่น
dot
สำนักพิมพ์ ทีรันนัส
dot
bulletสมัครเป็นสมาชิก
bulletสมัครเป็นผู้แทนจำหน่าย
bulletหนังสือใหม่ล่าสุด
bulletหนังสือขายดีติดอันดับ
bulletหนังสือพิมพ์ซ้ำ
bulletวิธีสั่งซื้อสินค้าจากเรา
bulletศูนย์รับแจ้งสินค้ามีปัญหา
bulletแนะนำร้านหนังสือคริสเตียน
dot
Phon Phaiboon Church
dot
bulletคำเทศนาของศิษยาภิบาล
bulletข่าวสารจากคริสตจักร
dot
เว็บอื่นๆ
dot
bulletLink ลิ้งค์ไปเว็บคริสเตียน
bulletwww.thaichristians.net


องค์การ gpinternational
สหกิจคริสเตียนแห่งประเทศไทย
เว็บข่าวสารคริสเตียนไทย ทั่วฟ้าเมืองไทย ไม่แบ่งแยกคณะ บทความ  คำเทศนา  เรื่องสั้น  บทกลอน  แจกโฮมเพจเพื่อคริสตจักรในท้องถิ่น.... ฟังคำเทษนาออน์ไลน์  ลิ้งค์ไปเว็บต่างของคริสเตียนทั่วโลก   แหล่งซื้อขายของคริสเตียน  สิ่งดีๆที่คุณไม่ควรพลาดในเว็บไทยคริสเ
สมาคมพระคริสตธรรมไทย
คริสตจักรพรไพบูลย์


คำเทศนาเรื่อง ชีวิตคริสเตียนที่ส่องสว่าง article

ฟีลิปปี 2.12-18

ชีวิตคริสเตียนที่ส่องสว่าง

 

25 กันยายน 2005

 

       คนทั่วไปชอบคำว่า “ความสำเร็จ” แต่คงไม่ชอบคำว่า “ความล้มเหลว”   พี่น้องได้ประสบความสำเร็จไหม   อยากจะประสบความสำเร็จไหม  ผู้ที่ประสบความสำเร็จแท้ คือผู้ที่ประสบความสำเร็จในการทำหน้าที่ของตน  อะไรเป็นหน้าที่ของคริสเตียนเรา   พระเยซูได้ตรัสไว้แล้ว เมื่อพระองค์ทรงเทศนาบนภูเขาว่า “ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก ... จงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาได้เห็นความดีที่ท่านทำ เขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่าน ผู้ทรงอยู่ในสวรรค์” (มธ.5.14-16)   นี่คือหน้าที่ของคริสเตียน 

            พระคัมภีร์อีกตอนหนึ่งก็กล่าวไว้ว่า “กลางคืนล่วงไปมากแล้ว และรุ่งเช้าก็ใกล้เข้ามา เราจงเลิกการกระทำของความมืด และจงสวมเครื่องอาวุธของความสว่าง เราจงประพฤติตัวให้เหมาะสมกับเวลากลางวัน...” (รม.13.12-13ก)

            เมื่ออาจารย์เปาโลได้บรรยายถึงแบบอย่างของพระเยซูคริสต์เรื่องความถ่อมใจลงแล้ว เปาโลได้หนุนใจคริสเตียนให้ดำเนินชีวิตที่ส่องสว่าง   เพราะว่าพระเยซูทรงเป็นความสว่างของโลก ผู้ที่จะติดตามพระเยซูผู้ทรงถ่อมพระทัย ควรส่องสว่างดังที่พระองค์ส่องสว่างแก่คนทั้งปวง  ดังนั้นให้เราดูว่า ชีวิตที่ส่องสว่างแก่คนอื่นนั้นเป็นอย่างไร

 

1.     เป็นชีวิตที่ได้รับการชำระตัวให้บริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น (2.12-13)

        ก.    คริสเตียนควรดำเนินชีวิตเพื่อให้ได้ความรอดด้วยความเกรงกลัวและตัวสั่น (12)

                เปาโลเป็นคนแรกที่นำข่าวประเสริฐของพระเยซูมาประกาศกับชาวฟีลิปปี  ดังนั้น สมาชิกของคริสตจักรฟีลิปปีรักอาจารย์เปาโลมากจนได้เชื่อฟังถ้อยคำของเปาโลอย่างสม่ำเสมอ   เปาโลได้ให้พวกเขาระลึกถึงการเชื่อฟังของเขาตลอดเวลาที่ผ่านมา แล้วสั่งเรื่องใหม่แก่คริสเตียนชาวฟีลิปปีว่า “จงอุตสาห์ประพฤติ เพื่อให้ได้ความรอด”

                คำว่า “เพื่อให้ได้ความรอด”นั้น คงไม่ได้หมายความว่า “จงกระทำเพื่อความรอด หรือ เพื่อจะได้รับความรอด”  เพราะว่าสมาชิกของคริสตจักรฟีลิปปีเป็นคนที่ได้รับความรอดแล้ว   ไม่มีใครจะรอดได้โดยการกระทำของตนเอง แต่รอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อ และมิใช่โดยตัวเรากระทำเอง แต่พระเจ้าทรงประทานให้เป็นของขวัญของพระเจ้า (อฟ.2.8-9)

                คำว่า “เพื่อให้ได้ความรอด”นั้น หมายความว่า “จงสำแดงความรอดที่ได้รับแล้วในการดำเนินชีวิต”  พูดอีกนัยหนึ่ง คือ การชำระตัวให้บริสุทธิ์   ความรอดของเรานั้นมีสามด้าน คือ ในอดีต ในปัจจุบัน และในอนาคต   พระวจนะของพระเจ้าตอนนี้ กำลังพูดถึงความรอดในปัจจุบัน  เราได้รับความรอดในอดีตเมื่อเราได้รับเชื่อในพระเยซู แต่อันนั้นไม่ใช่เป็นจุดจบ แต่เพียงเป็นจุดเริ่มต้น  ผู้ที่ได้รับความรอดแล้ว จำเป็นต้องดำเนินชีวิตตามพระลักษณะพระฉายของพระเยซูคริสต์ คือ ดำเนินชีวิตอย่างพระเยซูมากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง  

                คริสเตียนควรสำแดงความรอดของตนในการดำเนินชีวิตด้วยใจที่เกรงกลัวและตัวสั่น   คำว่า ด้วยความเกรงกลัวและตัวสั่นนั้น พูดถึงท่าทีแห่งการดำเนินชีวิตของคริสเตียน  เมื่อเรามีความสัมพันธ์กับพี่น้องคริสเตียนด้วยกันก็ดี หรือกับคนที่ยังไม่ได้เป็นคริสเตียนก็ดี  ควรกระทำด้วยใจที่ระมัดระวัง และด้วยท่าทีที่จะเป็นกลิ่นหอมของพระคริสต์

        ข.    คริสเตียนควรดำเนินชีวิตเพื่อให้ได้ความรอดด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้า (13)

                สมาชิกของคริสตจักรฟีลิปปีไม่ได้แสดงความรอดในชีวิตของตนด้วยกำลังของตนเอง   แต่พระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ทรงสถิตในชีวิตของเขาช่วยเขาเสมอ   การที่เขาแสดงความเชื่อภายในให้เห็นภายนอกและนำไปปฎิบัติในชีวิตของเขานั้นเป็นไปได้ ไม่ใช้โดยความพยายามของเขา แต่โดยความช่วยเหลือของพระวิญญาณบริสุทธิ์  ข้อ 13 ได้กล่าวว่า “เพราะว่าพระเจ้าเป็นผู้ทรงกระทำกิจอยู่ภายในท่าน ให้ท่านมีใจปรารถนา ทั้งให้ประพฤติตามชอบพระทัยของพระองค์”

                พระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ทรงสถิตอยู่ในเราทรงช่วยเราอยู่เสมอ  ฉะนั้นเราต้องเชื่อฟังการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์อย่างเต็มที่   เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว น้ำพระทัยของพระเจ้าทรงปรากฎขึ้นในชีวิตของเราได้

 

2.     ชีวิตคริสเตียนที่ส่องสว่างนั้นเป็นชีวิตที่ไม่มีการบ่นและการทุ่มเถียงกัน (2.14-15)

        ก.    คริสเตียนต้องไม่บ่นและไม่ทุ่มเถียงกัน (14)  “จงทำสิ่งสารพัดโดยปราศจากการบ่นและการทุ่มเถียงกัน”

                การบ่น คือ สภาพที่ความไม่พอใจภายในถูกแสดงออกมาภายนอก  และการทุ่มเถียง ก็คือ สภาพที่ถกเถียงและเสนอความไม่เห็นด้วย   ตัวอย่างที่ดี คืออิสราเอลในถิ่นทุรกันดาร มีแต่การบ่นและการทุ่มเถียงกัน อาจารย์เปาโลได้เตือนคริสเตียนชาวโครินธ์ว่า “อย่าให้เราบ่นเหมือนอย่างที่บางคนในพวกเขา(อิสราเอล)ได้บ่นนั้น แล้วก็ต้องพินาศ..” (1คร.10.10)    ชีวิตของเราต้องไม่มีการบ่นและการทุ่มเถียงกัน เพราะสิ่งนั้นเป็นท่าทีแห่งการไม่เชื่อ และเป็นการต่อต้านพระเจ้า  

        ข.    มีจุดประสงค์สองประการที่ต้องไม่มีการบ่นและการทุ่มเถียงกัน (15)  “เพื่อท่านทั้งหลายจะไม่ถูกติเตียนและไม่มีความผิด เป็นบุตรที่ปราศจากตำหนิของพระเจ้าในท่ามกลางพงศ์พันธุ์ที่คดโกงและวิปลาส ท่านปรากฎในหมู่พวกเขาดุจความสว่างต่างๆในโลก”

                ประการแรก เพื่อจะไม่มีตำหนิในท่ามกลางพงศ์พันธุ์ที่คดโกงและวิปลาส   โลกนี้กำลังอยู่ใต้การปกครองของซาตาน ฉะนั้นมุ่งหาความสนุกสนาน  เพศสัมพันธ์  ชื่อเสียง และวัตถุนิยม  แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เป็นเรื่องสำหรับคริสเตียน ชีวิตคริสเตียนต้องไม่มีตำหนิ คือต้องไม่มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งถูกติเตียน  ชีวิตคริสเตียนต้องไม่มีความผิด คือไม่มีสิ่งอื่นเจือปน 

                ประการที่สอง เพื่อจะปรากฎดุจดวงสว่างในโลกที่ทรยศ  โลกนี้เต็มไปด้วยความมืด  เมื่อเราดำเนินชีวิตที่ไม่ถูกติเตียนและไม่มีความผิด เราจะเป็นเหมือนดุจดวงสว่างที่ส่องแสงสว่างโลกที่เต็มไปด้วยความมืด

                ถ้าจะไล่ความมืดให้ออกไปพ้น เราต้องการความสว่างขนาดไหน  นั่นคือขนาดเล็กที่สุด   ให้เรามองดูรอบๆของเรา   ความมืดฝ่ายวิญญาณมีอยู่ที่ไหนบ้าง  เราต้องไล่ความมืดฝ่ายซิญญาณให้ออกไปพ้น   สามารถที่จะไล่ความมืดด้วยความสว่างขนาดเล็กๆได้ฉันใด ก็สามารถไล่ความมืดฝ่ายวิญญาณความสว่างขนาดเล็กที่ได้สะท้อนความสว่างของพระเยซูได้ฉันนั้น   พระเยซูต้องการให้เราส่องความสว่างที่ได้สะท้อนความสว่างของพระเยซูเช่นนั้น   เราสามารถที่จะทำหน้าที่แห่งความสว่างนี้ได้โดยการดำเนินชีวิตตามพระเยซูทีละก้าวอย่างต่อเนื่อง

    

3.     ชีวิตคริสเตียนที่ส่องสว่างนั้นเป็นชีวิตที่ให้ความชื่นชมยินดีแก่คนอื่น  (2.16-18)

        ชีวิตที่ส่องสว่างของคริสเตียนชาวฟีลิปปีเป็นพยานหลักฐานที่ว่าการรับใช้ของเปาโลนั้นมิได้ไร้ประโยชน์ และทำให้เปาโลชื่นชมยินดีและภูมิใจมาก  ข้อที่ 16 บอกว่า “จงยึดมั่นในพระวาทะแห่งชีวิต เพื่อข้าพเจ้าจะมีที่อวดในวันของพระคริสต์ว่า ข้าพเจ้าไม่ได้วิ่งเปล่าๆ และไม่ได้ทำงานโดยเปล่าประโยชน์”   

        เปาโลได้เดินทางไปถึงเมืองฟีลิปปี และประกาศข่าวประเสริฐแก่ชาวฟีลิปปี   การที่ประกาศที่เมืองฟีลิปปีก็ไม่ง่าย มีความยากลำบากด้วย   ครั้งหนึ่ง เปาโลได้พบกับทาสสาวที่มีหมอผีเข้าสิง เปาโลได้ขับไล่ผีให้ออกจากหญิงคนนั้น ทำให้เจ้านายของหญิงคนนั้นหมดหวังที่จะได้เงิน จึงได้ฟ้องเปาโลกับสิลาสให้จำไว้ในคุก  ถึงอย่างไรก็ตาม ถ้าคริสเตียนชาวฟีลิปปีได้ดำเนินชีวิตที่ส่องสว่าง เปาโลดีใจ และถือว่า ไม่ได้วิ่งเปล่าๆ และไม่ได้ไร้ประโยชน์                 

        เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เปาโลก็ยินดีที่จะเสียสละชีวิตของตนเองเพื่อคริสเตียนที่ส่องสว่างอยู่เสมอ  ข้อ 17 บอกว่า “ถึงแม้ว่า ข้าพเจ้าต้องถูกเทลง เพื่อให้ครบเครื่องบูชาแห่งความเชื่อของท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้าก็ยังจะยินดีและชื่นชมร่วมกับท่านด้วย”  

        ตามประเพณีของคนยิว เมื่อเขาถวายเครื่องบูชา รายการสุดท้ายที่ทำให้ครบเครื่องบูชานั้น คือเทน้ำองุ่นลงไป และเปาโลยินดีที่จะเป็นอย่างนั้น  ชีวิตของคริสเตียนชาวฟีลิปปีเป็นเครื่องบูชาหลักที่จะถวายแด่พระเจ้า และเปาโลอยากให้ชีวิตของพวกเขาเป็นเครื่องบูชาที่ครบบริบูรณ์แด่พระเจ้า  เปาโลจึงยินดีที่จะเสียสละชีวิตของตนเป็นการเทลงน้ำองุ่นเพื่อพวกเขา  หมายความว่า ถ้าความเชื่อของคริสเตียนชาวฟีลิปปีเป็นเอก และเปาโลเป็นรอง  เปาโลก็ยังชื่นชมยินดี  

        ชีวิตคริสเตียนควรเป็นเช่นนั้น   ถ้าเราจะส่องสว่างโลกแห่งความมืด เราจำเป็นต้องเสียสละตนเอง   ให้เราคิดดูเทียน  เมื่อตนเองถูกไหม้แล้ว ความสว่างจะถูกส่องออกไปได้   ถ้าไม่มีความเสียสละของตน ความสว่างของพระคริสต์จะไม่ปรากฎขึ้น  ดังนั้น เราจำเป็นต้องเสียสละตนเอง แต่ไม่น่าประกาศให้คนอื่นๆทราบ

       

        เราควรดำเนินชีวิตอย่าง   เราควรดำเนินชีวิตที่ส่องสว่างแก่โลกแห่งความมืด   ชีวิตที่ส่องสว่างนั้นเป็นชีวิตที่ได้รับการชำระตัวให้บริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น  เป็นชีวิตที่ไม่มีการบ่นและการทุ่มเถียงกัน และเป็นชีวิตที่ให้ความชื่นชมยินดีแก่คนอื่น  พระเยซูได้ทรงเทศนาว่า “จงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาได้เห็นความดีที่ท่านทำ เขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่าน ผู้ทรงอยู่ในสวรรค์”   ดังนั้น เราจำเป็นต้องส่องสว่างแก่คนทั้งปวง  คนทั้งปวงรวมถึงใครบ้าง  ก่อนอื่น คือครอบครัวที่ยังไม่เป็นคริสเตียน ต่อมา เป็นเพื่อนและเพื่อนบ้านที่ยังไม่เป็นคริสเตียน   เราจะส่องสว่างแก่คนเหล่านี้อย่างไร   ก็โดยการทำความดี  แล้วอะไรเกิดขึ้น ผลที่ตามมาก็คือ คนเหล่านั้น จะได้สรรเสริญพระบิดาของท่าน ผู้ทรงอยู่ในสวรรค์  ก็หมายถึงคนที่ยังไม่เป็นคริสเตียนจะเป็นคริสเตียนเพราะเรา   คนเหล่านี้จะเป็นคริสเตียนหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับชีวิตของเราเอง  ให้เราส่องสว่างของพระคริสต์แก่คนทั้งปวง   นี่คือหน้าที่ของเรา  ขอพระเจ้าทรงอวยพรพี่น้องทุกคนให้ประสบความสำเร็จโดยการส่องสว่างแก่คนทั้งปวง

 




คำเทศนาปี 2005

เทศนาเรื่อง เราจะปรนนิบัติพระเจ้า article
เทศนาเรื่อง เจ้าของวันคริสต์มาสครั้งแรก article
เทศนาเรื่อง ความสนพระทัยของพระองค์และหน้าที่ของธรรมิกชน article
เทศนาเรื่อง ให้เรารักพระวจนะของพระเจ้า article
เทศนาเรื่อง ให้เรามีส่วนในข่าวประเสริฐ article
คำเทศนาเรื่อง ความเชื่อที่มุ่งไปข้างหน้า article
เทศนาเรื่อง นมัสการด้วยใจขอบพระคุณ article
เทศนาเรื่อง คริสเตียนที่สวยงาม article
เทศนาเรื่อง ท่านกำลังแสวงหาอะไรอยู่ article
Sermon 3 article
Sermon 2 article
Sermon 1 article
คำเทศนาเรื่อง ผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ article
คำเทศนาเรื่อง ชัยชนะเหนือความกลัว article
คำเทศนาเรื่อง ความเชื่อของทิโมธี article
คำเทศนาเรื่อง ให้คริสตจักรเต็มด้วยผู้นมัสการ article
คำเทศนาเรื่อง พระเยซูผู้ถูกยกขึ้นอย่างสูง article
คำเทศนาเรื่อง ผู้คนที่พระเจ้าแสวงหา article
คำเทศนาเรื่อง พระเยซูผู้ทรงถ่อมพระทัย article
คำเทศนาเรื่อง ให้เราเป็นอันหนึ่งอันเดียวในพระเป็นเจ้า article
คำเทศนาเรื่อง สองสิ่งที่คริสเตียนควรรู้ article
คำเทศนาเรื่อง จงระลึกถึงวันของพระเป็นเจ้า article
คำเทศนาเรื่อง ชีวิตที่สมกับข่าวประเสริฐ article
คำเทศนาเรื่อง เราควรดำเนินชีวิตอย่างไร article
คำเทศนาเรื่อง ของมีค่าอยู่ในภาชนะดิน article
คำเทศนาเรื่อง จงออกไปประกาศข่าวปรเสริฐ article
คำเทศนาเรื่อง เพชรพลอย 3 อย่างของคริสเตียน article
คำเทศนาเรื่อง ผู้คนที่เผาหนังสือตำรา article
คำเทศนาเรื่อง หญิงที่เปิดผอบน้ำมันหอม article
คำเทศนาเรื่อง ศักเคียสได้พบพระเยซู article
คำเทศนาเรื่อง คุณค่าของแผ่นดินสวรรค์ article
คำเทศนาเรื่อง คำอุปมาเรื่องแกะกับแพะ article
คำเทศนาเรื่อง : คริสเตียนที่ดี article
คำเทศนาเรื่อง : คริสเตียนที่พระเจ้าชมเชย article
คำเทศนาเรื่อง สองสิ่งที่มนุษย์ควรรู้ article
คำเทศนาเรื่อง การนมัสการที่พระเจ้าพอพระทัย article
คำเทศนาเรื่อง จงระลึกถึงพระผู้สร้างของท่าน article
คำเทศนาเรื่อง ผู้ที่จะได้รับพระพรของพระเจ้า article
คำเทศนาเรื่อง ให้เรารับพระพรของพระเจ้า article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.