ReadyPlanet.com
dot
dot
แจ้งเพื่อรับข่าวสารจากเรา

dot
dot
ทีรันนัสดอทคอม
dot
bulletสารจากผู้อำนวยการ
bulletประวัติทีรันนัส
bulletติดต่อเรา
bulletแผนที่
bulletสมุดเซ็นเยี่ยม
bulletข่าวสารจากทีรันนัส
dot
หนังสือแยกเป็นหมวดหมู่
dot
bulletหมวด คริสเตียนศึกษา
bulletหมวด การเทศนา
bulletหมวด อธิบายพระคัมภีร์
bulletหมวด คู่มือศึกษาพระคัมภีร์
bulletหมวด ชีวิตคริสเตียน
bulletหมวด เพิ่มพูนคริสตจักร
bulletหมวด การสร้างสาวก
bulletหมวด การประกาศ-มิชชั่น
dot
สำนักพิมพ์ ทีรันนัส
dot
bulletสมัครเป็นสมาชิก
bulletสมัครเป็นผู้แทนจำหน่าย
bulletหนังสือใหม่ล่าสุด
bulletหนังสือขายดีติดอันดับ
bulletหนังสือพิมพ์ซ้ำ
bulletวิธีสั่งซื้อสินค้าจากเรา
bulletศูนย์รับแจ้งสินค้ามีปัญหา
bulletแนะนำร้านหนังสือคริสเตียน
dot
Phon Phaiboon Church
dot
bulletคำเทศนาของศิษยาภิบาล
bulletข่าวสารจากคริสตจักร
dot
เว็บอื่นๆ
dot
bulletLink ลิ้งค์ไปเว็บคริสเตียน
bulletwww.thaichristians.net


องค์การ gpinternational
สหกิจคริสเตียนแห่งประเทศไทย
เว็บข่าวสารคริสเตียนไทย ทั่วฟ้าเมืองไทย ไม่แบ่งแยกคณะ บทความ  คำเทศนา  เรื่องสั้น  บทกลอน  แจกโฮมเพจเพื่อคริสตจักรในท้องถิ่น.... ฟังคำเทษนาออน์ไลน์  ลิ้งค์ไปเว็บต่างของคริสเตียนทั่วโลก   แหล่งซื้อขายของคริสเตียน  สิ่งดีๆที่คุณไม่ควรพลาดในเว็บไทยคริสเ
สมาคมพระคริสตธรรมไทย
คริสตจักรพรไพบูลย์


คำเทศนาเรื่อง ชีวิตที่สมกับข่าวประเสริฐ article

 

พระธรรม : ฟีลิปปี 1.27-30

เรื่อง ชีวิตที่สมกับข่าวประเสริฐ

 

คำเทศนา วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2005

โดย ศจ.ดร. จุก ซิก คิม

มีหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อ “เรื่องราวของชาวโรม” ที่เขียนโดยผู้หญิงชาวญี่ปุ่น ชื่อว่า สิโอโน นานามี  ผู้เขียนได้ถามเรื่อย ๆ ในหนังสือเล่มนี้ว่า อะไรทำไห้อาณาจักรโรมเข้มแข็ง  ในเรื่องสติปัญญา ชาวโรมด้อยกว่าชาวกรีก  ชาวโรมอ่อนกว่าชาวเยอรมัน หรือชาวเคลท์ในความแข็งแรงด้านร่างกาย  ชาวโรมด้อยกว่าชาวคาธิจ อาณาจักรโบราณตอนเหนือทวีปแอฟริกา แต่มีอะไรทำให้ชาวโรมได้ชนะและปกครองโลกในสมัยนั้น  ผู้เขียนได้สรุปสาเหตุว่า “เพราะเขาได้ดำเนินชีวิตที่สมกับความเป็นพลเมืองโรม  การที่เขาได้รักษากฎหมายและระเบียบ รักษาหลักการ และวิญญาณที่ชื่นชมยินดีและภูมิใจที่เป็นพลเมืองโรมนั่นแหละเป็นพลังแห่งชัยชนะ”

อาจารย์เปาโลได้หนุนใจคริสเตียนชาวเมืองฟีลิปปีให้ดำเนินชีวิตที่สมกับข่าวประเสริฐของพระคริสต์   ข่าวประเสริฐของพระคริสต์เป็นฤทธิ์เดชของพระเจ้า ทำให้ทุกคนที่เชื่อในพระเยซูได้รับความรอดพ้นจากกรรมได้   การที่เราได้รู้จักพระเยซูผู้ทรงสิ้นพระชนม์ที่กางเขน  เพื่อจะไถ่บาปของเรา ซึ่งคนมากมายไม่ค่อยรู้จัก  การที่เราได้เชื่อในพระเยซูและสารภาพว่า พระผู้ช่วยให้รอดของเราและองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ซึ่งคนอื่นๆ เชื่อไม่ได้ นี่เป็นฤทธิ์เดชของข่าวประเสริฐ  ผู้ได้อยู่ในพระคริสต์เป็นผู้ที่ถูกสร้างใหม่  ฐานะของเราได้ถูกเปลี่ยนไป  เราได้กลายเป็นชาวแผ่นดินสวรรค์โดยความเชื่อในพระเยซู  เชื่อเช่นนี้มั้ย  ถ้าเราเชื่อเช่นนี้แล้ว เราควรขอบพระคุณพระเจ้าในทุกสิ่ง เพราะการขอบคุณเป็นการสำแดงออกถึงความเชื่อ

พ่อกับลูกชาย ซึ่งมีความเชื่อดี   วันหนึ่ง ขณะที่ลูกชายกลับบ้านและเข้ามา บอกกับพ่อว่า “คุณพ่อครับ วันนี้มีสิ่งที่น่าขอบคุณได้เกิดขึ้นกับลูก”   พ่อถามว่า “ได้เกิดอะไรขึ้น”  ลูกตอบว่า “เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ขอบคุณพระเจ้าจริงๆ”  พ่อก็บอกว่า “บอกมาซิ เร็วๆนี้ว่า เกิดอะไรขึ้น”  ลูกก็ตอบว่า “วันนี้ ในขณะที่กลับจากโบสถ์ เกิดอุบัติเหตุขึ้นและรถได้พลิกไปเจ็ดตลบ แต่ลูกไม่เป็นอะไรเลย ไม่ได้รับบาดเจ็บ แม้แต่นิดเดียวเลย”  เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้ว พ่อบอกกับลูกชายว่า “พ่อขอบพระคุณพระเจ้ามากกว่าลูกด้วยซ้ำ”  ลูกถามว่า “พ่อกลิ้งแปดตลบหรือ”  พ่อตอบว่า “ไม่ใช่ พ่อไม่ได้กลิ้งเลย แม้แต่ครั้งเดียว”  ใช่แล้ว  ไม่ใช่เราขอบพระคุณพระเจ้าเมื่อเรารอดจากเหตุการณ์ใหญ่หรือได้รับการแก้ไขปัญหาใหญ่เท่านั้น แต่การที่เราอยู่ที่นี่ในวันนี้เป็นสิ่งที่น่าขอบพระคุณพระเจ้า  การขอบคุณเช่นนี้ได้เกิดมาจากความเชื่อ  ความเชื่อในพระเยซูแบบนี้ทำให้เราเป็นชาวแผ่นดินสวรรค์

ดังนั้น คำว่า จงดำเนินชีวิตที่สมกับข่าวประเสริฐ คือดำเนินชีวิตที่สมกับชื่อว่า คริสเตียน  พูดอีกนัยหนึ่ง คือ ดำเนินชีวิตที่สมกับฐานะใหม่ คือชาวแผ่นดินสวรรค์  เมืองฟีลิปปีเป็นเมืองเอกในเขตแคว้นมาซิโดเนียและเป็นอาณานิคมของโรม  ชาวเมืองฟีลิปปีกำลังดำรงชีวิตอยู่โดยใช้สิทธิและหน้าที่ของชาวโรม   ดังนั้นเขารู้ดีว่า การดำเนินชีวิตในฐานะเป็นพลเมืองโรมนั้นเป็นอย่างไร   เมื่อเป็นเช่นนั้น ชีวิตที่สมกับข่าวประเสริฐเป็นชีวิตแบบไหน  ชาวแผ่นดินสวรรค์ควรดำเนินชีวิตอย่างไร

 

  1. ชีวิตที่สมกับข่าวประเสริฐเป็นชีวิตที่ร่วมมือกับผู้เชื่อคนอื่น
    เพื่อข่าวประเสริฐ 

ข้อ 27 ข. กล่าวไว้ว่า “... แม้ข้าพเจ้าจะมาหาท่านหรือไม่ก็ตาม ข้าพเจ้าก็จะได้รู้ข่าวของท่านว่า ท่านเชื่อมั่นคงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ต่อสู้เหมือนอย่างอย่างเป็นคนเดียวเพื่อความเชื่ออันเกิดจากข่าวประเสริฐนั้น”

คงไม่มีคริสเตียนคนใดที่อยู่โดดเดี่ยวได้   พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์เราให้อยู่ในสังคมตั้งแต่เกิดมา   เราจึงจำเป็นต้องร่วมมือกับคนอื่นๆ

ถ้าจะร่วมมือกับคนอื่นๆ  เราต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน   เท่าที่มีความไม่เห็นด้วยกันและความขัดแย้งกันภายในคริสตจักร  ข่าวประเสริฐไม่สามารถที่จะส่งผลต่อสังคมโลกได้   พระคัมภีร์เน้นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมากๆ  พระเยซูได้ทรงอธิษฐานให้คริสเตียนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเหมือนอย่างที่พระเยซูกับพระเจ้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

เปาโลได้หนุนใจว่า “ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าวิงวอนท่านในพระนามของพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา ขอให้ท่านปรองดองกัน  อย่าถือพวกถือคณะ แต่ขอ ให้ท่านเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน” (1 คร.1.10)     พระคัมภีร์ได้เปรียบเทียบคริสตจักรกับร่างกาย   อวัยวะในร่างกายแต่ละส่วนต้องการและพึ่งอาศัยซึ่งกันและกันฉันใด  เราต้องการและอาศัยผู้เชื่อคนอื่นในคริสตจักรฉันนั้น

ถ้าจะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันภายในคริสตจักร คงไม่มีทางอื่น นอกจากการรวมกันโดยเอาพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง  เพราะว่าเราแต่ละคนมีความคิดไม่เหมือนกัน   มีสิ่งหนึ่งที่อันตรายมากในชีวิตคริสเตียน ก็คือ ตัวเอง  ตัวเองอาจจะอันตรายมากกว่าซาตาน เพราะเรารู้ว่าซาตานอันตราย แต่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นสิ่งที่อันตราย   เราควรละทิ้งชีวิตที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง  เราควรพยายามให้ชีวิตของเราเต็มไปด้วยน้ำพระทัยของพระเจ้าและวิญญาณแห่งความร่วมมือ   สิ่งที่จำเป็นมากที่สุดในการรับใช้พระเจ้า คือความร่วมมือด้วยท่าทีแห่งความถ่อมใจ เพื่อข่าวประเสริฐเหมือนการแข่งขันกีฬา เช่นฟุตบอล   ถ้าต่างคนต่างเล่น คงชนะไม่ได้  เราต้องยินยอมความคิดของตนและปฎิบัติตามแผนร่วมกัน        

2.  ชีวิตที่สมกับข่าวประเสริฐเป็นชีวิตที่ไม่กลัวสิ่งใด

            เมื่อมีบางคนที่เกลียดชังเราเพราะความเชื่อในพระเยซู เรามักจะกลัวเขา  พยายามที่จะหลีกเลี่ยงเขา หรือมักจะคิดที่จะประนีประนอมกับเขา  แต่ ข้อ 28 กล่าวว่า “และท่านไม่เกรงกลัวผู้ที่ขัดขวางท่านแต่ประการใดเลย...”   เมื่อชาวสวรรค์ดำรงอยู่ในโลกนี้  เราอาจเผชิญหน้ากับความยากลำบากโดยไม่มีสาเหตุ แต่เพราะเราเป็นชาวสวรรค์   ทำไมเราไม่เกรงกลัวผู้ขัดขวางเรา

            สาเหตุประการแรก เขาไม่ได้ขัดขวางเรา แต่ขัดขวางพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่   เขาได้เยาะเย้ยคริสเตียน เพราะเขาได้เยาะเย้ยพระเยซู  เขากำลังต่อสู้กับพระเจ้า   ประการที่สอง เขากำลังทำเป็นทาสของซาตาน  อย่าเกลียดชังเขา แต่จงเกลียดชังซาตานที่กำลังใช้เขา   พระเจ้าของเราใหญ่กว่าซาตาน  อย่าแก้แค้นผู้ใดเลย เพราะการแก้แค้นเป็นหน้าที่ของพระเจ้า  หน้าที่ของเรา คืออภัยให้และรักเขาโดยไม่มีเงื่อนไข  ประการที่สาม เพราะว่า พระเจ้าจะปกป้องรักษาเราไม่ให้ผมที่ศีรษะตกถึงดินแม้แต่เส้นเดียว  ให้เราอ่าน มัทธิว 10.28-33    เพื่อนสามคนของดาเนียลเป็นตัวอย่างที่ดี  กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งเมืองบาบิโลนได้กริ้วเพื่อนสามคน คือ ชัดรัค เมชาคและเอเบดเนโก  เพราะสามคนนี้ปฏิบัติตามความเชื่อในพระเจ้าแทนที่จะกราบไหว้รูปเคารพ จึงโยนสามคนนี้เขาไปในเตาไฟที่ทำให้ร้อนกว่าที่เคยเจ็ดเท่า  คนที่โยนสามคนนี้ก็ถูกเปลวไฟไหม้จนตาย   แต่พระคัมภีร์เขียนไว้ว่า “... ไฟไม่มีอำนาจอะไรเหนือร่างกายของคนเหล่านี้ ผมที่ศีรษะของเขาไม่งอ เสื้อก็มิได้เป็นอันตราย ไม่มีกลิ่นไฟที่ตัวเขาทั้งหลายเลย”(ดาเนียล 3.27) 

            ชาวสวรรค์ต้องไม่กลัวอะไรเลย  ข้อ 28 กล่าวอีกว่า “เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จะเป็นที่ประจักษ์แก่เขาว่า พวกเขาจะถึงซึ่งความพินาศ  แต่พวกท่านก็คงจะถึงซึ่งความรอด และการนั้นมาจากพระเจ้า”   ถ้าผู้ใดผู้หนึ่งขัดขวางเราเพราะเราเป็นคริสเตียน อย่ากลัวเขาเลย เพราะสิ่งนั้นเป็นหลักฐานที่ว่า เราได้รับความรอดแล้ว และสิ่งนั้นเป็นหลักฐานที่ว่า ผู้ขัดขวางจะได้รับความพินาศ  ฉะนั้นชาวสวรรค์ไม่ควรน้อยใจเพราะผู้ใดผู้หนึ่ง แต่ต้องเดินก้าวหน้าอย่างกล้าหาญเพื่อข่าวประเสริฐ

 

            3.   ชีวิตที่สมกับข่าวประเสริฐเป็นชีวิตที่พร้อมที่จะทนความทุกข์ยาก

                  (1.29-30)

ข้อ 29 กล่าวว่า “เพราะพระเจ้าได้ทรงโปรดแก่ท่านเพราะเห็นแก่พระคริสต์  มิใช่ให้ท่านเชื่อถือในพระองค์เท่านั้น แต่ให้ท่านทนความทุกข์ยากเพราะเห็นแก่พระองค์ด้วย”   ความทุกข์ยากเพื่อพระคริสต์นั้นเป็นสิทธิพิเศษ   การที่เราเป็นคริสเตียนเป็นสิทธิพิเศษจริงๆ  คริสเตียนเป็นบุตรของพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด  พระคัมภีร์บอกว่า “บรรดาผู้ที่ต้อนรับพระองค์ ผู้ที่เชื่อในพระนามของพระองค์  พระองค์ก็ทรงประทานสิทธิให้เป็นบุตรของพระองค์”(ยอห์น 1.12)   ในโลกนี้มีคนมากมาย แต่คนที่อยู่ฝ่ายคริสตจักรมีน้อย   ในสมาชิกของคริสตจักร คริสเตียนที่บังเกิดใหม่จริงๆ ก็ไม่มาก  ดังนั้น การที่เราเป็นคริสเตียนแท้โดยพระคุณของพระเจ้านั้น เป็นสิทธิพิเศษจริงๆ 

ในเวลาเดียวกัน  คริสเตียนเรา มิใช่รับสิทธิพิเศษที่ได้เชื่อในพระเยซูเท่านั้น เรายังได้รับสิทธิพิเศษที่จะทนความทุกข์ยากเพื่อพระองค์ด้วย   ความเชื่อกับความทุกข์ยากนั้นเป็นพระพรคู่ที่พระเจ้าทรงประทานแก่ผู้ที่เชื่อ   ความทุกข์ยากนั้นเป็นพระพรที่ปลอมตัวสำหรับคริสเตียน   ไม่น่าชื่นชมยินดีเพราะไม่มีความทุกข์ยาก แต่ตรงกันข้าม น่าชื่นชมยินดีเมื่อเราเผชิญหน้ากับความทุกข์ยากเพราะเห็นแก่พระคริสต์  

พระเยซูตรัสไว้ว่า “บุคคลผู้ใดต้องถูกข่มเหงเพราะเหตุความชอบธรรม ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขา  เมื่อเขาจะติเตียนข่มเหงและนินทาว่าร้ายท่านทั้งหลายเป็นความเท็จเพราะเรา ท่านก็เป็นสุข  จงชื่นชมยินดี เพราะว่าบำเหน็จของท่านมีบริบูรณ์ในสวรรค์...”(มัทธิว 5.10-12)  

พระเจ้าต้องการให้เรามีการดำเนินชีวิตที่สอดคล้องกับความเชื่อที่เกิดจากข่าวประเสริฐ   เมื่อเราเป็นชาวแผ่นดินสวรรค์โดยความเชื่อแล้ว เราควรดำเนินชีวิตที่สมกับฐานะใหม่ คือชาวแผ่นดินสวรรค์   ชาวแผ่นดินสวรรค์ต้องร่วมมือกับพี่น้องคริสเตียนคนอื่นเพื่อข่าวประเสริฐ ต้องกล้าหาญและไม่เกรงกลัวผู้ใดเลย  และต้องพร้อมที่จะทนความทุกข์ยากด้วยความยินดีเพราะเห็นแก่พระคริสต์   ขอให้เราดำเนินชีวิตที่สมกับข่าวประเสริฐตลอดชีวิตของเราในโลกนี้           

 

 

 


 

 

 




คำเทศนาปี 2005

เทศนาเรื่อง เราจะปรนนิบัติพระเจ้า article
เทศนาเรื่อง เจ้าของวันคริสต์มาสครั้งแรก article
เทศนาเรื่อง ความสนพระทัยของพระองค์และหน้าที่ของธรรมิกชน article
เทศนาเรื่อง ให้เรารักพระวจนะของพระเจ้า article
เทศนาเรื่อง ให้เรามีส่วนในข่าวประเสริฐ article
คำเทศนาเรื่อง ความเชื่อที่มุ่งไปข้างหน้า article
เทศนาเรื่อง นมัสการด้วยใจขอบพระคุณ article
เทศนาเรื่อง คริสเตียนที่สวยงาม article
เทศนาเรื่อง ท่านกำลังแสวงหาอะไรอยู่ article
Sermon 3 article
Sermon 2 article
Sermon 1 article
คำเทศนาเรื่อง ผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ article
คำเทศนาเรื่อง ชัยชนะเหนือความกลัว article
คำเทศนาเรื่อง ความเชื่อของทิโมธี article
คำเทศนาเรื่อง ให้คริสตจักรเต็มด้วยผู้นมัสการ article
คำเทศนาเรื่อง ชีวิตคริสเตียนที่ส่องสว่าง article
คำเทศนาเรื่อง พระเยซูผู้ถูกยกขึ้นอย่างสูง article
คำเทศนาเรื่อง ผู้คนที่พระเจ้าแสวงหา article
คำเทศนาเรื่อง พระเยซูผู้ทรงถ่อมพระทัย article
คำเทศนาเรื่อง ให้เราเป็นอันหนึ่งอันเดียวในพระเป็นเจ้า article
คำเทศนาเรื่อง สองสิ่งที่คริสเตียนควรรู้ article
คำเทศนาเรื่อง จงระลึกถึงวันของพระเป็นเจ้า article
คำเทศนาเรื่อง เราควรดำเนินชีวิตอย่างไร article
คำเทศนาเรื่อง ของมีค่าอยู่ในภาชนะดิน article
คำเทศนาเรื่อง จงออกไปประกาศข่าวปรเสริฐ article
คำเทศนาเรื่อง เพชรพลอย 3 อย่างของคริสเตียน article
คำเทศนาเรื่อง ผู้คนที่เผาหนังสือตำรา article
คำเทศนาเรื่อง หญิงที่เปิดผอบน้ำมันหอม article
คำเทศนาเรื่อง ศักเคียสได้พบพระเยซู article
คำเทศนาเรื่อง คุณค่าของแผ่นดินสวรรค์ article
คำเทศนาเรื่อง คำอุปมาเรื่องแกะกับแพะ article
คำเทศนาเรื่อง : คริสเตียนที่ดี article
คำเทศนาเรื่อง : คริสเตียนที่พระเจ้าชมเชย article
คำเทศนาเรื่อง สองสิ่งที่มนุษย์ควรรู้ article
คำเทศนาเรื่อง การนมัสการที่พระเจ้าพอพระทัย article
คำเทศนาเรื่อง จงระลึกถึงพระผู้สร้างของท่าน article
คำเทศนาเรื่อง ผู้ที่จะได้รับพระพรของพระเจ้า article
คำเทศนาเรื่อง ให้เรารับพระพรของพระเจ้า article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.