พระธรรม 1โครินธ์เป็นจดหมายที่อาจารย์เปาโลเขียนและส่งไปยังคริสตจักรโครินธ์ ในคริสตจักรโครินธ์ มีคริสเตียนสองประเภท คือ คริสเตียนที่อยู่ฝ่ายวิญญาณและคริสเตียนที่อยู่ฝ่ายเนื้อหนัง ในข้อที่ 1 กล่าวว่า พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่อาจจะพูดกับท่านเหมือนพูดกับผู้ที่อยู่ฝ่ายวิญญาณ แต่ต้องพูดกับท่านเหมือนคนที่อยู่ฝ่ายเนื้อหนัง เหมือนกับท่านเป็นทารกในพระคริสต์
เช่นเดียวกัน ในคริสตจักรของเราปัจจุบันนี้ ก็มีคริสเตียนสองประเภท คือ คริสเตียนที่อยู่ฝ่ายวิญญาณ หมายถึงคริสเตียนที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ เป็นคริสเตียนที่ดี และอีกประเภทคือคริสเตียนที่อยู่ฝ่ายเนื้อหนัง ถ้าคริสตจักรมีจำนวนคริสเตียนที่ดีเพิ่มขึ้นมาก ก็เป็นคริสตจักรที่ดี
ผู้ที่อยู่ฝ่ายวิญญาณเป็นคนที่ประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่ อยู่ใต้การควบคุมของพระคริสต์ เป็นคนที่ดำรงชีวิตอยู่ในโลกนี้ แต่แสวงหาสิ่งซึ่งอยู่เบื้องบน เป็นคนที่พยายามต่อสู้ที่จะไม่ทำบาป ได้ละทิ้งสิ่งซึ่งเป็นของความมืด แต่ดำเนินชีวิตเหมือนกับความสว่างและเกลือตามการทรงนำของพระคริสต์ผู้ทรงเป็นความสว่างของโลก เป็นผู้ที่พร้อมที่จะทนทุกข์ทรมานเพราะเห็นแก่พระนามของพระคริสต์ เป็นผู้ที่แสวงหาความหวังและปรารถนาที่จะรับบำเหน็จในแผ่นดินของพระเจ้า ไม่ใช่ในโลกนี้ซึ่งเป็นที่อาศัยชั่วคราว
ส่วนผู้ที่อยู่ฝ่ายเนื้อหนังนั้น เป็นทารกในพระคริสต์ หรือผู้ที่ได้รับเชื่อพระเยซูคริสต์ แต่ไม่ได้เติบโตขึ้นเท่าที่ควร เป็นคริสเตียนแต่ชื่อ รักตัวเองมากกว่ารักพระเยซู มีความสนใจในงานของโลกมากกว่าการดำเนินชีวิตโดยความเชื่อ ชีวิตในคริสตจักรกับชีวิตในสังคมไม่สอดคล้องกัน เป็นคนที่ยังผูกพันกับนิสัยเก่าในอดีตเมื่อยังไม่รับเชื่อพระเยซู เป็นคนที่คิดอย่างคน มิได้คิดอย่างพระเจ้า เป็นคนที่ดูเหมือนว่ารักพระเจ้าแต่ด้วยปาก จิตใจของเขาไม่เกรงกลัวพระเจ้าเลย
มีสิ่งหนึ่งที่น่าสังเกตก็คือ บางครั้งเราเป็นคริสเตียนที่ดี และบางครั้งเราก็มีแนวโน้มที่จะเป็นคริสเตียนที่อยู่ฝ่ายเนื้อหนังได้ด้วย เปโตรเป็นตัวอย่างที่ดี ครั้งหนึ่ง พระเยซูทรงถามสาวกของพระองค์ว่า แล้วพวกท่านเล่า ว่าเราเป็นใคร เปโตร ตอบว่า พระองค์ทรงเป็นพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ พระเยซูทรงชมเชยว่า ท่านก็เป็นสุข... ในช่วงเวลาเดียวกัน พระเยซูทรงทำนายถึงความตายของพระองค์ว่า พระองค์จะทนทุกข์ทรมานหลายประการจนต้องถึงถูกประหารชีวิต ส่วนเปโตรเอามือจับพระองค์ทูลท้วงว่า ให้เหตุการณ์นั้นอยู่ห่างไกลจากพระองค์เถิด อย่าให้เป็นอย่างนั้นแก่พระองค์เลย พระเยซูทรงหันพระพักตร์ตรัสกับเปโตรว่า อ้าย ซาตานจงไปให้พ้น เจ้าเป็นเครื่องกีดขวางเราเพราะเจ้าคิดอย่างคน มิได้คิดอย่างพระเจ้า เปโตรได้รับคำชมเชยและได้รับคำด่าด้วย
เราควรจะเป็นคริสเตียนประเภทไหนจากสองประเภทนี้ เป็นคริสเตียนที่อยู่ฝ่ายวิญญาณหรือเป็นคริสเตียนที่อยู่ฝ่ายเนื้อหนัง แน่นอน เราต้องเป็นคริสเตียนที่อยู่ฝ่ายวิญญาณ คือ คริสเตียนที่ดี ขอพระเจ้าทรงเมตตาและทรงอวยพระพรเราให้ทุกคนเป็นคริสเตียนทีดี ถ้าเป็นเช่นนั้น ทำอย่างไร เราเป็นคริสเตียนที่ดีได้
1. เราต้องไม่ประพฤติตามมนุษย์สามัญ
ข้อ 3 กล่าวไว้ว่า ด้วยว่า ท่านยังอยู่ฝ่ายเนื้อหนังเพราะว่าเมื่อยังอิจฉากัน และขัดเคืองใจกัน ท่านไม่ได้อยู่ฝ่ายเนื้อหนังหรือ และไม่ได้ประพฤติตามมนุษย์สามัญดอกหรือ ลักษณะของคนที่ประพฤติตามมนุษย์เป็นอย่างไรบ้าง
ลักษณะของคนที่ประพฤติตามมนุษย์ คือ มีการแบ่งแยกกันโดยไม่ได้ยึดถือความจริงในคริสตจักรโครินธ์ ข้อ 4 ได้บอกว่า ...คนหนึ่งกล่าวว่า ข้าพเจ้าเป็นศิษย์ของเปาโล อีกคนหนึ่งกล่าวว่า ข้าพเจ้าเป็นศิษย์ของอปอลโล ท่านทั้งหลายมิได้เป็นมนุษย์สามัญหรือ เปาโลเป็นผู้ที่ประกาศข่าวประเสริฐแก่ชาวโครินธ์ และอปอลโลเป็นผู้ที่สอนพระคัมภีร์ให้แก่ชาวโครินธ์ การที่คริสเตียนที่เมืองโครินธ์มีผู้รับใช้พระเจ้าอย่างเปาโลและอปอลโลเป็นพระพรยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าประทานให้ ทำให้พวกเขาได้ยินข่าวประเสริฐและเจริญเติบโตขึ้นได้ แต่เปาโลก็ดี อปอลโลก็ดี เป็นผู้รับใช้พระเจ้า ไม่ใช่พระเจ้า ดังนั้น ไม่น่าถือเปาโลและอปอลโลว่า เป็นพระเจ้า แต่ควรขอบคุณและควรทำให้ผู้รับใช้เหล่านี้ได้รับใช้พระเจ้าในคริสตจักรด้วยความยินดี
เมื่อมีการแบ่งแยกเป็นกลุ่มแล้ว ก็มีการอิจฉากันและขัดเคืองใจกัน (3.3) พระคัมภีร์ฉบับอมตธรรมร่วมสมัยได้แปลข้อนี้ว่า ... เพราะยังมีการอิจฉาริษยาและการทุ่มเถียงกันในหมู่พวกท่าน... การอิจฉาริษยาและการทุ่มเถียงกันนั้นเป็นสิ่งที่เราควรทิ้งเสีย ไม่ว่าด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม เราไม่น่าอิจฉาและทุ่มเถียงกัน พระเจ้าทรงเรียกเราให้สร้างสันติ มิใช่ให้ทุ่มเถียงกัน คนที่อิจฉาและทุ่มเถียงกันมักจะฟังจากคนมากกว่าฟังจากพระเจ้า และมักจะคิดและพูดตามความรู้สึกของตนแทนที่จะคิดและพูดตามความจริง การแบ่งแยกเป็นวิธีของชาวโลก ไม่ใช่วิธีของคริสเตียน
นอกจากการอิจฉาและทุ่มเถียงกันแล้ว ยังมีหลายอย่างที่คริสเตียนในเมืองโครินธ์ประพฤติตามมนุษย์สามัญ เมื่อเราอ่านพระธรรม 1 โครินธ์ เรารู้ได้ว่า คริสเตียนในคริสตจักรโครินธ์ประพฤติตามมนุษย์สามัญอย่างไรบ้าง เช่น สงสัยการเป็นขึ้นมาจากความตาย (บทที่ 15) การใช้ของประทานฝ่ายวิญญาณไม่ถูกต้อง (12-14) นับถือรูปเคารพ (8) ความเข้าใจผิดในเรื่องการแต่งงาน (7) ว่าความกันต่อหน้าคนที่ไม่เชื่อ (6) การล่วงประเวณี (5) เป็นต้น เพราะสิ่งเหล่านี้ อาจารย์เปาโลไม่อาจพูดกับท่านเหมือนพูดกับผู้ที่อยู่ฝ่ายวิญญาณ แต่ต้องพูดกับท่านเหมือนคนที่อยู่ฝ่ายเนื้อหนัง เหมือนกับท่านเป็นทารกในพระคริสต์
อาจารย์เปาโลหนุนใจคริสเตียนชาวกาลาเทีย ไม่ให้สนองตอบความต้องการเนื้อหนัง แต่ให้ดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ กล่าวว่า งานของเนื้อหนังนั้นเห็นได้ชัด คือ ... (ดูพระคัมภีร์) (กาลาเทีย 5.19-21) ขอให้เราทิ้งการงานของเนื้อหนังเหล่านี้เสีย เพื่อจะเป็นคริสเตียนที่ดี
2. เราต้องดำเนินชีวิตโดยให้พระเจ้าเป็นศูนย์กลาง
ข้อ 6 กล่าวว่า ข้าพเจ้าปลูก อปอลโลรดน้ำ แต่พระเจ้าทรงทำให้เติบโต ถึงแม้ว่า คนที่ปลูกและคนที่รดน้ำทุ่มเทกำลังมาก แต่พระเจ้าไม่ทรงทำให้เติบโต ความพยายามของผู้ที่ปลูกและผู้ที่รดน้ำก็ไร้ประโยชน์ เราปลูกได้ และเรารดน้ำได้ แต่เราทำให้เติบโตไม่ได้ เราจึงจำเป็นต้องดำเนินชีวิตโดยเอาพระเจ้าเป็นศูนย์กลางในชีวิตของเรา การดำเนินชีวิตโดยเอาพระเจ้าทรงเป็นศูนย์กลางในชีวิตของเรานั้นหมายถึงอะไร
1) ยกย่องพระเจ้าผู้เดียว เพราะพระเจ้าทรงเป็นผู้สำคัญที่สุด ผู้ยิ่งใหญ่ และสูงส่ง ในข้อ 7 กล่าวว่า คนที่ปลูกและคนที่รดน้ำไม่สำคัญอะไร แต่พระเจ้าผู้ทรงโปรดให้เติบโตนั้นต่างหากที่สำคัญ พระเจ้าทรงเป็นผู้สำคัญมากที่สุดในชีวิตของเรา ดังนั้น เราจะทำอะไรก็ตาม ควรกระทำทุกสิ่งเพื่อเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า
2) เชื่อฟังและประพฤติตามพระวจนะของพระเจ้า พระเจ้าทรงเปิดเผยน้ำพระทัยของพระองค์ในพระคัมภีร์ ดังนั้น เราไม่ควรประพฤติตามความรู้สึกของเราเอง ความคิดของเรา แม้กิตติศัพท์ที่เลื่องลือไป แต่ควรประพฤติตามพระวจนะของพระเจ้า เราต้องยึดมั่นในพระวจนะของพระเจ้า
3) ดำเนินชีวิตด้วยใจถ่อมตัวลง พระคัมภีร์บอกว่า คนที่ปลูก คือเปาโลก็ดี คนที่รดน้ำ คืออปอลโลก็ดี ไม่สำคัญอะไร เพียงเป็นผู้รับใช้ชองพระเจ้า
4) ทำทุกอย่างให้ดีที่สุดโดยรู้ว่าทุกสิ่งเป็นงานของพระเจ้า ข้อ 9 กล่าวว่า เพราะว่าเราทั้งหลายร่วมกันทำงานเพื่อพระเจ้า... พระคัมภีร์ฉบับอมตธรรมร่วมสมัยแปลชัดกว่านั้น โดยกล่าวว่า ด้วยว่าเราเป็นผู้ร่วมงานกับพระเจ้า... ตามที่อาจารย์เปาโลบอกไว้แล้วว่า เราไม่สำคัญอะไรเลย แต่พระเจ้าทรงเรียกเราให้เป็นผู้ร่วมงานกับพระองค์ งานในคริสตจักรก็ดี งานในบ้านก็ดี หรืองานในที่ทำงานก็ดี เป็นงานของพระเจ้าทั้งนั้น พระคัมภีร์กล่าวไว้ว่า ... ด้วยใจเกรงกลัวจนตัวสั่น ด้วยน้ำใสใจจริงเหมือนที่กระทำแก่พระคริสต์ ไม่เหมือนอย่างคนที่ทำแต่ต่อหน้า อย่างคนที่ทำให้ชอบใจคน แต่จงทำเหมือนอย่างทาสของพระคริสต์ คือกระทำตามชอบพระทัยพระเจ้าด้วยความเต็มใจ... (อฟ.6.5-8)
อย่าประพฤติตามมนุษย์สามัญ แต่ดำเนินชีวิตโดยเอาพระเจ้าเป็นศูนย์กลางของชีวิตเรา แล้วเราทุกคนจะเป็นคริสเตียนที่อยู่ฝ่ายวิญญาณ คือคริสเตียนที่ดีได้ ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรพี่น้องทุกคนให้เป็นคริสเตียนที่ดี |