ReadyPlanet.com
dot
dot
แจ้งเพื่อรับข่าวสารจากเรา

dot
dot
ทีรันนัสดอทคอม
dot
bulletสารจากผู้อำนวยการ
bulletประวัติทีรันนัส
bulletติดต่อเรา
bulletแผนที่
bulletสมุดเซ็นเยี่ยม
bulletข่าวสารจากทีรันนัส
dot
หนังสือแยกเป็นหมวดหมู่
dot
bulletหมวด คริสเตียนศึกษา
bulletหมวด การเทศนา
bulletหมวด อธิบายพระคัมภีร์
bulletหมวด คู่มือศึกษาพระคัมภีร์
bulletหมวด ชีวิตคริสเตียน
bulletหมวด เพิ่มพูนคริสตจักร
bulletหมวด การสร้างสาวก
bulletหมวด การประกาศ-มิชชั่น
dot
สำนักพิมพ์ ทีรันนัส
dot
bulletสมัครเป็นสมาชิก
bulletสมัครเป็นผู้แทนจำหน่าย
bulletหนังสือใหม่ล่าสุด
bulletหนังสือขายดีติดอันดับ
bulletหนังสือพิมพ์ซ้ำ
bulletวิธีสั่งซื้อสินค้าจากเรา
bulletศูนย์รับแจ้งสินค้ามีปัญหา
bulletแนะนำร้านหนังสือคริสเตียน
dot
Phon Phaiboon Church
dot
bulletคำเทศนาของศิษยาภิบาล
bulletข่าวสารจากคริสตจักร
dot
เว็บอื่นๆ
dot
bulletLink ลิ้งค์ไปเว็บคริสเตียน
bulletwww.thaichristians.net


องค์การ gpinternational
สหกิจคริสเตียนแห่งประเทศไทย
เว็บข่าวสารคริสเตียนไทย ทั่วฟ้าเมืองไทย ไม่แบ่งแยกคณะ บทความ  คำเทศนา  เรื่องสั้น  บทกลอน  แจกโฮมเพจเพื่อคริสตจักรในท้องถิ่น.... ฟังคำเทษนาออน์ไลน์  ลิ้งค์ไปเว็บต่างของคริสเตียนทั่วโลก   แหล่งซื้อขายของคริสเตียน  สิ่งดีๆที่คุณไม่ควรพลาดในเว็บไทยคริสเ
สมาคมพระคริสตธรรมไทย
คริสตจักรพรไพบูลย์


คำเทศนาเรื่อง : คริสเตียนที่พระเจ้าชมเชย article

 

เรื่อง : คริสเตียนที่พระเจ้าชมเชย

วัน/เวลา : 29 พ.ค. 2005 / 11.15 น.

คำเทศน์โดย : ศจ.ดร. จุก ซิก คิม

ข้อพระคัมภีร์ : 1 โครินธ์ 3.10-15

 

คริสเตียนมีสองประเภท คือ ผู้ที่อยู่ฝ่ายเนื้อหนังและผู้ที่อยู่ฝ่ายวิญญาณ   ผู้ที่เจริญ เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่และผู้ที่ไม่ได้เติบโตแต่ยังเป็นทารก  ผู้ที่ดำเนินชีวิตตามมนุษย์สามัญและผู้ที่ดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ   พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ ก็ยังกล่าวว่า คริสเตียนมีสองประเภท  คือผู้ที่จะรับค่าตอบแทนและผู้ที่จะขาดค่าตอบแทน  ถ้าพูดอีกนัยหนึ่ง คือคริสเตียนบางคนจะได้รับรางวัล แต่ก็มีบางคนจะไม่มีโอกาสที่จะรับรางวัลในอนาคต  บางคนจะรับคำชมเชยจากพระเจ้า   บางคนจะไม่ได้รับคำชมเชย   รางวัล หรือคำชมเชยนั้น มีแต่ความชื่นชมยินดี  ผู้ให้ก็มีความยินดี และผู้รับก็มีความยินดี   เมื่อเราไปยังแผ่นดินสวรรค์  ทูตสวรรค์จะเรียกชื่อของเราและพาเราไปหาพระเจ้า  พระองค์ทรงประทานรางวัลแก่เราด้วยความปิติยินดี  เราก็จะเต็มเปี่ยมด้วยความยินดีแน่นอน   แต่ถ้าหากว่า   ได้รับความรอดแล้วแต่ไม่มีรางวัล จะเป็นอย่างไร    ขอพระเจ้าทรงอวยพรเราทุกคนให้เป็นคริสเตียนที่จะได้รับรางวัล  คือคนที่พระองค์ทรงชมเชยได้    คริสเตียนที่พระเจ้าทรงชมเชยได้นั้นเป็นอย่างไร 

 

1.   เป็นคริสเตียนที่วางรากลงอย่างดี 

      ในพระคัมภีร์ตอนนี้ เปาโลกำลังอธิบายว่า คริสเตียนเป็นเหมือนผู้ก่อสร้าง   ในข้อ 10ได้กล่าวว่า  “โดยพระคุณของพระเจ้าซึ่งได้ทรงโปรดประทานแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้วางรากลงแล้วเหมือนนายช่างผู้ชำนาญ...”   นายช่างผู้ชำนาญ คือ ช่างก่อสร้างที่มีสติปัญญา 

      เมื่อพระเยซูเทศนาบนภูเขาเสร็จแล้ว ได้ทรงสรุปด้วยรากฐานสองชนิด คือทรายกับศิลา   คนโง่สร้างบ้านเรือนของตนไว้บนทราย  ฝนก็ตก น้ำก็ไหลเชี่ยว ลมก็พัดปะทะเรือนนั้น  เรือนนั้นก็พังทลายลง   แต่คนมีปัญญาสร้างบ้านเรือนของตนไว้บนศิลา  ฝนก็ตก น้ำก็ไหลเชี่ยว ลมก็พัดปะทะเรือนนั้น แต่เรือนนั้นมิได้พังลง เพราะว่ารากตั้งอยู่บนศิลา (มธ.7.24-25)

      เพราะฉะนั้น เราต้องวางรากฐานอย่างดี  ต้องวางรากบนศิลา ไม่ใช่บนทราย   ศิลาที่เราต้องวางรากนั้น คืออะไร  นั่นคือพระเยซูคริสต์   เพลงชีวิตคริสเตียนบทที่ 85 มีเนื้อเพลงว่า “พระเยซูเปรียบดังศิลา ซึ่งกำบังข้าให้พ้นภัย...”   เปาโลก็ได้บอกในข้อ 11 ว่า “เพราะว่า ผู้ใดจะวางรากอื่นอีกไม่ได้แล้ว นอกจากที่วางไว้แล้ว คือพระเยซูคริสต์”   หมายความว่า นอกจากพระเยซูคริสต์แล้ว  ไม่มีรากอื่นสำหรับชีวิตเรา   พระเยซูทรงเป็นผู้บุกเบิกความเชื่อของเราและเป้าหมายสูงสุดของการดำเนินชีวิตของเราด้วย   พระเยซูทรงเป็นรากฐานของคริสตจักรและเป็นศีรษะของคริสตจักรด้วย 

      การวางรากลงบนพระเยซูอย่างดีนั้น หมายความว่า รู้จักพระเยซูและเชื่อพระเยซูอย่างถูกต้องตามพระคัมภีร์   บางคนได้คิดและก่อขึ้นว่า พระเยซูคงเป็นอย่างนี้อย่างโน้น ซึ่งไม่เหมือนกับพระคัมภีร์   ถ้าเราจะเชื่อพระเยซูอย่างถูกต้อง เราจำเป็นต้องรู้จักพระเยซูอย่างถูกต้องก่อน   พระเยซูทรงเป็นใคร   หลักข้อเชื่อของอัครทูตได้สรุปอย่างถูกต้องและชัด เจน   เรื่องสำคัญก็คือ พระเยซูทรงเป็นพระเจ้าและในเวลาเดียวกันทรงเป็นมนุษย์แต่ไม่มีบาป   พระเยซูทรงปฏิสนธ์โดยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์   ทรงถูกตรึงที่กางเขนและสิ้นพระชนม์แทนเรา  ทรงเป็นขึ้นมาจากความตายในวันที่สามเพื่อความชอบธรรมของเรา   เสด็จขึ้นไปสู่สวรรค์และประทับ ณ เบื้องขวาของพระเจ้า  และอีกไม่นานพระองค์จะเสด็จมาพิพากษาคนเป็นและคนตาย  

      เราต้องรู้จักและเชื่อพระเยซูตามพระคัมภีร์ ไม่ใช่ตามใจเรา เพราะพระคัมภีร์เท่านั้นเป็นหลักสำหรับความเชื่อและการดำเนินชีวิตของเรา   แต่มีบางคนที่ตัดพระคัมภีร์บางส่วน หรือเพิ่มเติมคำเข้าไปในพระคัมภีร์   คนเหล่านี้กำลังวางรากอื่นนอกจากพระเยซูอยู่   แต่พระคัมภีร์กล่าวไว้ว่า ถ้าผู้ใดเพิ่มเติมคำเขาไปในพระคัมภีร์ พระเจ้าจะทรงเพิ่มภัยพิบัติ  ถ้าผู้ใดตัดข้อความจากพระคัมภีร์  พระเจ้าก็จะทรงเอาส่วนแบ่งของผู้นั้นเสีย(วิวรณ์ 22.18-19) 

      ถ้าเราได้ยินพระวจนะของพระเจ้าแล้วหยุด ก็ไม่เพียงพอ  จำเป็นต้องพยายามที่จะปฎิบัติตามนั้นด้วย   สิ่งที่พระคัมภีร์ให้เราทำ เราก็ทำ   สิ่งที่พระคัมภีร์ห้าม เราก็ไม่ทำ   บางครั้งเราพยายามแต่ทำตามไม่ค่อยได้ เพราะเราเป็นมนุษย์ที่อ่อนแอ  เราจึงพึ่งอาศัยพระคุณของพระเจ้า  เปาโลก็ได้กล่าวว่า “โดยพระคุณของพระเจ้าซึ่งได้ทรงประทานแก่ข้าพเจ้า...”   ด้วยความพยายามของเราอย่างเดียว เราทำไม่ได้  แต่เราทำได้โดยพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเสริมกำลังของเรา  

 

2.   เป็นคริสเตียนที่ใช้วัสดุก่อสร้างอย่างดีอย่างถูกต้อง

      นอกจากวางรากลงอย่างดีอย่างมั่นคงแล้ว  การใช้วัสดุก่อสร้างเป็นเรื่องสำคัญเช่น เดียวกัน    เปาโลได้เตือนไว้ว่า “ขอทุกคนจงระวังให้ดีว่า เขาจะก่อขึ้นมาอย่างไร” (10)   “บนรากนั้น ถ้าผู้ใดจะก่อขึ้นด้วยทองคำ เงิน เพชรพลอย ไม้ หญ้าแห้ง หรือฟาง”

      ที่ประเทศเกาหลีสมัยหนึ่ง ยังคงจำได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่เมืองเทกู เกาหลีใต้  เกิดเพลิงไหม้รถไฟใต้ดิน ผู้คนจำนวนมากเสียชีวิต   ผลการพิสูจน์ ปรากฎว่า ภายในรถไฟใต้ดินใช้วัสดุก่อสร้างไม่ดี แทนที่จะใช้วัสดุที่ทนไฟ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

      เปาโลได้พูดถึงวัสดุก่อสร้าง 6 อย่าง คือ ทองคำ เงิน เพชรพลอย ไม้ หญ้าแห้ง หรือฟาง  แต่เมื่อรวบรวมแล้ว สรุปได้ว่า มีวัสดุก่อสร้าง 2 ประเภท คือวัสดุถาวร และวัสดุชั่วคราว   ทองคำ เงินและเพชรพลอยเป็นวัสดุถาวร   ส่วนไม้ หญ้าแห้ง หรือฟางเป็นวัสดุชั่วคราว   จะเห็นว่าหากเป็นช่างก่อสร้างผู้ชำนาญและสัตย์ซื่อ คงรู้ดีว่า ควรใช้วัสดุอะไรดีและมักจะทำตามนั้น  

      เช่นเดียวกัน  การสร้างชีวิตคริสเตียน เราควรรู้และใช้วัสดุที่ดีและคงทน  อะไรเป็นสิ่งคงทนถาวร เราควรใช้สิ่งที่เรามีอยู่กับสิ่งถาวรนั้น   ตามที่พระคัมภีร์กล่าวไว้  ทุกสิ่งในโลกเป็นอนิจจัง   ท้องฟ้าก็จะหายไปและแผ่นดินโลกก็สูญสิ้นไป  แล้วอะไรเป็นสิ่งถาวร...

      1)  พระวจนะของพระเจ้า   เพราะว่าเป็นพระคำที่มาจากพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่   ผู้เขียนฮีบรูบอกว่า  “พระวจนะของพระเจ้านั้นไม่ตาย และทรงพลานุภาพอยู่เสมอ...” (4.12)   ดังนั้นเราควรใช้เงิน กำลัง และเวลาที่เหลืออยู่ ในการศึกษาพระวจนะของพระเจ้า 

      2)   วิญญาณของคนที่ยังไม่เป็นคริสเตียน   ดังนั้นเราจำเป็นต้องประกาศและเป็นพยานฝ่ายพระเยซูกับคนที่ยังไม่เชื่อ   พยายามนำเขามารับเชื่อพระเยซู   ตั้งแต่ญาติพี่น้องให้เชื่อพระเยซู  จนถึงวันนี้ เรานำกี่คนมาเชื่อพระเยซู   ถ้าเมื่อเราไปสวรร์แล้ว หลายคนมาหาเราและบอกว่า “เราเชื่อพระเยซูและมาที่นี่ได้ก็เพราะ..คุณ” ก็จะมีความชื่นชมยินดีมากใช่ไหม

      พระคัมภีร์พูดถึงการใช้เงินทองด้วย  ใช้อย่างไรจึงจะอยู่ได้เป็นถาวร   พระธรรมมัทธิว 6.19-21 กล่าวไว้ว่า  ให้เราไม่ให้ส่ำสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตัวเราในโลกนี้ แต่ให้ส่ำสมทรัพย์สมบัติไว้ในสวรรค์  

     

3.   เป็นคริสเตียนที่ระลึกถึงวันพิพากษาของพระเจ้าในวันข้างหน้า

      มีคริสเตียนบางคนดำเนินชีวิตอยู่โดยไม่ได้คิดว่า จะมีการพิพากษาในวันข้างหน้า   อยากจะพูดอะไร ก็พูดไป คิดอะไรก็คิด อยากทำอะไรก็ทำ   แต่พระคัมภีร์ตอนนี้ได้บอกไว้ว่า มีการพิพากษาแน่นอน

      “การงานของแต่ละคนก็จะได้ปรากฎให้เห็น  เพราะวันเวลาจะให้เห็นได้ชัดเจนเพราะว่าจะเห็นชัดได้ด้วยไฟ   ไฟนั้นจะพิสูจน์ให้เห็นการงานของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร” (13)   เมื่อพระเจ้าได้ทรงพิพากษาลงโทษคนในสมัยโนอาห์ พระองค์ได้ทรงสัญญาว่า จะไม่พิพากษาด้วยน้ำอีก แต่จะพิพากษาด้วยไฟ 

      วันหนึ่งคริสเตียนเราทุกคนจะยืนอยู่หน้าบัลลังก์แห่งการพิพากษาของพระเจ้า  เมื่อนั้นพระองค์จะทรงตัดสินว่า เราจะได้รับรางวัลอะไร   ในข้อ 14 และ15 บอกว่า “ถ้าการงานของผู้ใดที่ก่อขึ้นทนอยู่ได้ ผู้นั้นก็จะได้ค่าตอบแทน   ถ้าการงานของผู้ใดถูกเผาไหม้ไป ผู้นั้นก็จะขาดค่าตอบแทน แต่ตัวเขาเองจะรอด แต่เหมือนดังรอดจากไฟ”

      อย่าเป็นคนที่ขาดค่าตอบแทน เมื่อไปแผ่นดินสวรรค์ แต่ให้เราทุกคนได้ค่าตอบแทน  เราจะได้หรือขาด ขึ้นอยู่กับการก่อขึ้นของเราในวันนี้   มีอาจารย์ท่านหนึ่งชาวอังกฤษในศตวรรษที่ 17 ชื่อ โทมัส วัตสันได้บอกว่า “ถ้าท่านทำงานหนักเพื่อแผ่นดินสวรรค์ ระดับพระสิริของท่านก็สูงขึ้นไปด้วย   ความสว่างของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดวงดาวต่างกันฉันใด พระสิริของคริสเตียนก็ต่างกันฉันนั้น   ตามการรับใช้ของแต่ละคนจำเพาะพระพักตร์ของพระเจ้า  บางคนอาจส่องสว่างดังดวงอาทิตย์  มีบางคนจะส่องสว่างดังดวงจันทร์ และยังมีบางคนจะส่องสว่างดังดวงดาว” 

      มีเจ้าของบริษัทใหญ่คนหนึ่ง อยากจะย้ายบ้านหลังใหม่ จึงบอกกับผู้จัดการบริษัทก่อสร้างผู้ซึ่งทำงานใต้เขาขอให้สร้างบ้านหลังหนึ่ง   แล้วผู้จัดการคนนี้ก็ได้สร้างบ้านหลังหนึ่งที่สวย เสร็จแล้วเอาลูกกุญแจมามอบให้แก่เจ้าของบริษัท  เมื่อเจ้าของบริษัทได้รับกุญแจแล้ว บอกกับผู้จัดการว่า เมื่อก่อนนั้นจะย้ายไปอาศัยอยู่ที่บ้านหลังใหม่ แต่ต่อมาได้เปลี่ยนใจแล้ว แล้วก็เอากุญแจมาคืนให้กับผู้จัดการให้ผู้จัดการเข้าไปอาศัยบ้านหลังนั้น   ขณะที่ผู้จัดการได้รับกุญแจและกลับ เขาบอกตัวเองในใจว่า “ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างนี้ น่าจะสร้างบ้านให้ดีกว่านี้”

      คงไม่มีใครที่จะบอกเมื่อเข้าไปแผ่นดินสวรรค์แล้วว่า “ถ้ารู้ว่าแผ่นดินสวรรค์ดีอย่างนี้ น่าจะรับใช้พระเจ้ามากกว่านั้น”   เราต้องระลึกเสมอว่า  พระเจ้าจะทรงพิพากษา ไม่ใช่เพื่อจะลงโทษ แต่เพื่อจะประทานรางวัลและมงกุฎ และชมเชย  ให้เรากระตือรือร้นและสัตย์ซื่อในการรับใช้พระเจ้าและในการดำเนินชีวิตประจำวัน

      ในมัทธิว พระเยซูตรัสคำอุปมาเรื่องเงินตะลันต์   ก่อนที่ชายคนหนึ่งออกเดินทางไป เรียกพวกทาสและฝากเงินไว้  คนหนึ่งได้รับห้าตะลันต์ อีกคนหนึ่งได้รับสองตะลันต์ และอีกคนหนึ่งได้รับตะลันต์เดียว  คนที่ได้รับห้าตะลันต์กับสองตะลันต์ก็ได้ทำการค้าขายและได้กำไร แต่คนที่ได้รับตะลันต์เดียวไม่ได้ทำอะไรเลย   เมื่อนายกลับมาทำบัญชีกับพวกทาสของตน  พวกทาสได้มารายงานให้นายฟัง  เมื่อนายได้ฟังแล้ว บอกกับคนที่ได้กำไรว่า “ดีแล้ว เจ้าเป็นทาสดีและสัตย์ซื่อ”  แต่บอกกับคนที่ไม่ได้ทำอะไรเลยว่า “อ้ายข้าชั่วช้าและเกียจคร้าน”   พี่น้องที่รัก  ให้เราสร้างบ้านแห่งชีวิตคริสเตียนของเราอย่างดีจนทนได้  เมื่อถึงเวลาพระเจ้าจะทรงพิสูจน์สิ่งเหล่านี้ด้วยไฟเหมือนดังช่างก่อสร้างผู้ชำนาญ  แล้วเราจะได้รับรางวัลและคำชมเชยจากพระเจ้า เมื่อเราไปแผ่นดินสวรรค์ 

 

 




คำเทศนาปี 2005

เทศนาเรื่อง เราจะปรนนิบัติพระเจ้า article
เทศนาเรื่อง เจ้าของวันคริสต์มาสครั้งแรก article
เทศนาเรื่อง ความสนพระทัยของพระองค์และหน้าที่ของธรรมิกชน article
เทศนาเรื่อง ให้เรารักพระวจนะของพระเจ้า article
เทศนาเรื่อง ให้เรามีส่วนในข่าวประเสริฐ article
คำเทศนาเรื่อง ความเชื่อที่มุ่งไปข้างหน้า article
เทศนาเรื่อง นมัสการด้วยใจขอบพระคุณ article
เทศนาเรื่อง คริสเตียนที่สวยงาม article
เทศนาเรื่อง ท่านกำลังแสวงหาอะไรอยู่ article
Sermon 3 article
Sermon 2 article
Sermon 1 article
คำเทศนาเรื่อง ผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ article
คำเทศนาเรื่อง ชัยชนะเหนือความกลัว article
คำเทศนาเรื่อง ความเชื่อของทิโมธี article
คำเทศนาเรื่อง ให้คริสตจักรเต็มด้วยผู้นมัสการ article
คำเทศนาเรื่อง ชีวิตคริสเตียนที่ส่องสว่าง article
คำเทศนาเรื่อง พระเยซูผู้ถูกยกขึ้นอย่างสูง article
คำเทศนาเรื่อง ผู้คนที่พระเจ้าแสวงหา article
คำเทศนาเรื่อง พระเยซูผู้ทรงถ่อมพระทัย article
คำเทศนาเรื่อง ให้เราเป็นอันหนึ่งอันเดียวในพระเป็นเจ้า article
คำเทศนาเรื่อง สองสิ่งที่คริสเตียนควรรู้ article
คำเทศนาเรื่อง จงระลึกถึงวันของพระเป็นเจ้า article
คำเทศนาเรื่อง ชีวิตที่สมกับข่าวประเสริฐ article
คำเทศนาเรื่อง เราควรดำเนินชีวิตอย่างไร article
คำเทศนาเรื่อง ของมีค่าอยู่ในภาชนะดิน article
คำเทศนาเรื่อง จงออกไปประกาศข่าวปรเสริฐ article
คำเทศนาเรื่อง เพชรพลอย 3 อย่างของคริสเตียน article
คำเทศนาเรื่อง ผู้คนที่เผาหนังสือตำรา article
คำเทศนาเรื่อง หญิงที่เปิดผอบน้ำมันหอม article
คำเทศนาเรื่อง ศักเคียสได้พบพระเยซู article
คำเทศนาเรื่อง คุณค่าของแผ่นดินสวรรค์ article
คำเทศนาเรื่อง คำอุปมาเรื่องแกะกับแพะ article
คำเทศนาเรื่อง : คริสเตียนที่ดี article
คำเทศนาเรื่อง สองสิ่งที่มนุษย์ควรรู้ article
คำเทศนาเรื่อง การนมัสการที่พระเจ้าพอพระทัย article
คำเทศนาเรื่อง จงระลึกถึงพระผู้สร้างของท่าน article
คำเทศนาเรื่อง ผู้ที่จะได้รับพระพรของพระเจ้า article
คำเทศนาเรื่อง ให้เรารับพระพรของพระเจ้า article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.