ReadyPlanet.com
dot
dot
แจ้งเพื่อรับข่าวสารจากเรา

dot
dot
ทีรันนัสดอทคอม
dot
bulletสารจากผู้อำนวยการ
bulletประวัติทีรันนัส
bulletติดต่อเรา
bulletแผนที่
bulletสมุดเซ็นเยี่ยม
bulletข่าวสารจากทีรันนัส
dot
หนังสือแยกเป็นหมวดหมู่
dot
bulletหมวด คริสเตียนศึกษา
bulletหมวด การเทศนา
bulletหมวด อธิบายพระคัมภีร์
bulletหมวด คู่มือศึกษาพระคัมภีร์
bulletหมวด ชีวิตคริสเตียน
bulletหมวด เพิ่มพูนคริสตจักร
bulletหมวด การสร้างสาวก
bulletหมวด การประกาศ-มิชชั่น
dot
สำนักพิมพ์ ทีรันนัส
dot
bulletสมัครเป็นสมาชิก
bulletสมัครเป็นผู้แทนจำหน่าย
bulletหนังสือใหม่ล่าสุด
bulletหนังสือขายดีติดอันดับ
bulletหนังสือพิมพ์ซ้ำ
bulletวิธีสั่งซื้อสินค้าจากเรา
bulletศูนย์รับแจ้งสินค้ามีปัญหา
bulletแนะนำร้านหนังสือคริสเตียน
dot
Phon Phaiboon Church
dot
bulletคำเทศนาของศิษยาภิบาล
bulletข่าวสารจากคริสตจักร
dot
เว็บอื่นๆ
dot
bulletLink ลิ้งค์ไปเว็บคริสเตียน
bulletwww.thaichristians.net


องค์การ gpinternational
สหกิจคริสเตียนแห่งประเทศไทย
เว็บข่าวสารคริสเตียนไทย ทั่วฟ้าเมืองไทย ไม่แบ่งแยกคณะ บทความ  คำเทศนา  เรื่องสั้น  บทกลอน  แจกโฮมเพจเพื่อคริสตจักรในท้องถิ่น.... ฟังคำเทษนาออน์ไลน์  ลิ้งค์ไปเว็บต่างของคริสเตียนทั่วโลก   แหล่งซื้อขายของคริสเตียน  สิ่งดีๆที่คุณไม่ควรพลาดในเว็บไทยคริสเ
สมาคมพระคริสตธรรมไทย
คริสตจักรพรไพบูลย์


คำเทศนาเรื่อง จงระลึกถึงพระผู้สร้างของท่าน article

จงระลึกถึงพระผู้สร้างของท่าน

ปัญญาจารย์ 12.1-8

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม 2005

 

            พระธรรมปัญญาจารย์เป็นคำสอนของกษัตริย์ซาโลมอน ซึ่งได้มาจากชีวิตของตนเอง  ซาโลมอนเป็นโอรสองค์ที่สี่ของดาวิด ซึ่งเกิดจากนางบัทเซบาซาโลมอนบริบูรณ์ด้วยความมั่งคั่ง เกียรติยศ และพระสิริ ไม่ใช่เพียงแต่สติ ปัญญาเท่านั้น ไม่มีใคร            ที่เป็นอยู่ก่อนและที่จะขึ้นมาภายหลังท่านเหมือนท่านเลย   เสบียงอาหารสำหรับซาโลมอนในวันหนึ่ง คือ แป้งเก้าสิบโคเร วัว 30 ตัว แกะ 100 ตัว และยังมีเนื้อสัตว์อีก  มีภรรยาและมเหสีที่มาจากประเทศต่างๆ ถึง 1,000 คน  เป็นผู้ที่ไม่รู้จักความขัดสน  เป็นผู้ที่ดำรงชีวิตอยู่อย่างมีความสุข  แม้พระเยซูเองได้ทรงอ้างถึงพระสิริของซาโลมอนด้วย 

            แต่ชีวิตในตอนปลาย ซาโลมอนได้ประสบความทุกข์โศกเศร้าและความล้มเหลว   สิ่งสารพัดที่มีอยู่ก็ไร้ความหมายและไรประสงค์สำหรับชีวิตของตน เมื่ออายุประมาณ 60 พรรษา ก่อนที่ซาโลมอนสิ้นชีวิต ก็ได้กล่าวไว้เป็นคำสรุปของท่านเองว่า “อนิจจัง อนิจจัง สารพัดก็อนิจจัง”(8)   แล้วได้ท้าทายเราในเช้าวันนี้ว่า “ในปฐมวัยของเจ้า เจ้าจงระลึกถึงพระผู้เนรมิตสร้างของเจ้า ก่อนที่ยามทุกข์ร้อนจะมาถึง และปีเดือนใกล้เข้ามา เมื่อเจ้าจะกล่าวว่า ข้าไม่มีความเพลิดเพลินในปีเดือนนั้นเลย”   ดังนั้น ในเช้าวันนี้ จะเทศนาด้วยหัวข้อว่า “จงระลึกถึงพระผู้สร้างของท่าน”  

 1.  เราจำต้องระลึกถึงพระผู้สร้างของเราในวันนี้ ไม่ใช่พรุ่งนี้ หรือภายหลัง  

            ในข้อที่ 1 “ในปฐมวัยของเจ้า... ก่อนที่ยามทุกข์ร้อนจะมาถึง และปีเดือนใกล้เข้ามา เมื่อเจ้าจะกล่าวว่า ข้าไม่มีความเพลิดเพลินในปีเดือนนั้นเลย” 

หมายความว่า ก่อนแก่ชราลง  คือวันนี้ อายุของเราในวันนี้เท่าไร ก็ยังไม่สายเกินไป   ถ้าเราเลื่อนไป  อาจสายเกินไป   คงไม่มีใครที่จะแก่ชราลง  ไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย หรือผู้หญิงก็ตาม  แต่คงไม่มีใครที่จะหลีกหนีได้

            เมื่อถึงวันนั้น คนยามเฝ้าเรือนจะตัวสั่น และคนแข็งแรงจะคุดคู้ไป  หญิงโม่จะเลิกโม่ เพราะจำนวนลดน้อยลง (ฟัน)  บรรดาผู้ที่เยี่ยมหน่าต่างจะมืดมัว (ตา)  ประตูคู่ที่เปิดออกถนนจะปิดเสีย (หู)  เสียงเพลงก็เพลาลง (คอ)  กลัวที่สูง  ... ต้นอัลมันด์มีดอก (เส้นผมขาว)   ตั๊กแตนโมเป็นภาระ ความปรารถนาก็ประลาดไปเสีย  เพราะมนุษย์กำลังไปบ้าถาวร (อุโมงศ์ฝังศพ) ... และก่อนผงคลีกลับไปเป็นดินอย่างเดิม และจิตวิญญาณกลับไปสู่พระเจ้าผู้ประทานให้มานั้น

            เรามีแต่ปัจจุบัน  อดีตเป็นเวลาที่ผ่านไปแล้ว  อนาคตเป็นเวลาที่ยังมาไม่

ถึง   พรุ่งนี้ไม่แน่นอน  เปโตรก็ได้อ้างจากอิสยาห็ 40.6-8 ว่า “เพราะว่า

บรรดาเนื้อหนังก็เป็นเสมือนต้นหญ้า และ บรรดาศักดิ์ศรีของเขาก็เป็นเสมือนดอกหญ้า ต้นหญ้าก็เหี่ยวแห้งไป และดอกก็ร่วงโรยไป แต่พระวจนะของพระเจ้ายั่งยืนอยู่เป็นนิตย์” (1.24-25)  อย่ารีรอช้า อย่าเลื่อนไป แต่จงระลึกถึงพระผู้สร้างชีวิตของท่ารในวันนี้  ในปัจจุบันนี้ 

 

2.  เราจำเป็นต้องระลึกถึงพระผู้สร้างของเราเพรา ชีวิตที่ปราศจากพระเจ้านั้นว่างเปล่า

            กษัตริย์ซาโลมอนมีทุกอย่างบริบูรณ์  ไม่ขัดสนเลย  บริบูรณ์ด้วยความเข้าใจ ความฉลาด สติปัญญา ความมั่งคั่ง และพระสิริ ซึ่งมาจากพระเจ้า  พระเจ้าทรงโปรดปราณซาโลมอนมาก   ซาโลมอนได้สร้างพระวิหารของพระเจ้า ได้ถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้า และอธิษฐานกับพระเจ้า 

            แต่ช่วงหลัง ภรรยาและมเหสี 1,000 คนที่มาจากต่างประเทศ ก็ได้นำรูปเคารพต่างๆมาด้วย  และทำให้ซาโลมอนลื่มพระคุณของพระเจ้าที่ทรงมีต่อท่านเอง ได้หันเหไปเสียจากพระเจ้า และเคารพรูปเคารพต่างๆ   ทุกสิ่งที่ท่านเคยมีก็อนิจจัง เสื่อมลงไปทั้งสิ้น ยกเว็น ความยำเกรงพระเจ้า  เพราะฉะนั้น ซาโลมอนได้บอกกับเราว่า “อนิจจัง อนิจจัง สารพัดก็อนิจจัง” 

ครั้งหนึ่ง อาจารย์บิลลี เกรฮัมอยู่ในเกาะเคราเบียน  ได้รับเชิญไปรับ ประทานอาหารเที่ยงจากมหาเศษรฐีคนหนึ่ง  เขามีอายุ 75 ปี  หลังจากรับประ ทานอาหารเสร็จแล้ว เศษรฐีคนนั้นร้องไห้ใหญ่โดยไม่ได้คาดหวัง และบอกว่า  “ผมมีทรัพสมบัติมากมาย  แต่เสียจิตวิญญาณของผม   คนอย่างผมก็ยังมีความ หวังหรือ?”

2 ชั่วโมงภายหลัง อาจารย์บิลลี เกรฮัมก็มีโอกาสพบกับคนชรายากจนอีกคนหนึ่ง และคนชราคนนั้นก็อายุ 75 ปี เหมือนกัน  เขาบอกว่า “ผมไม่มีเงินในมือของผม แม้แต่ 1 เหรียญ แต่พระคริสต์ทรงสถิตในใจของผม ผมจึงมีความสุขมากที่สุดในประเทศของผม”  เมืออาจารย์บิลลี เกรฮัมสังเกตดูแล้ว คนชรายากจนคนนี้ ยิ้มตลอด และเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดีและความมั่นใจในการดำเนินชีวิต 

คนที่ไม่มีพระเจ้า ก็ไม่มีอะไรที่น่าเชื่อ ไม่มีความหวัง ไม่มีเป้าหมายของการดำเนินชีวิต และจิตใจของเขาว่างเปล่า  เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว คนเหล่านี้มักจะแสวงหาความสนุกสนานในโลก คงไม่เปลกอะไรเลยที่สังคมของเรามีแต่ปัญหาทั้งนั้น ปัญหายาเสพติด เล่นการพนัน เมาเหล้า สุบบหรี่ เป็นต้น เพราะไม่มีพระเจ้า ขอให้เราเรียนจากประสบการณ์ของซาโลมอน และระลึกถึงพระเจ้าในวันนี้

 

3.  การระลึกถึงพระผู้สร้างของเรามีความหมาย 3 ประการ

            ประการแรก หมายความว่า เชื่อในพระเจ้า 

            คนในโลกนี้ส่วนใหญ่กำลังดำเนินชีวิตโดยการเชื่อในเงิน อำนาจ ชื่อเสียง หรือเจ้านายของตน และแม้ความฉลาดหรือผลสวรรค์ของตน  สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เป็นสิ่งถาวร  สิ่งเหล่านี้เสมือนดอกหญ้า ต้นหญ้าก็เหี่ยวแห้งไป และดอกก็ร่วงโรยไป   คริสเตียนเป็นคนที่ดำเนินชีวิตโดยการไว้วางใจในพระเจ้าทุกๆวัน

            ประการที่สอง หมายความว่า รักพระเจ้า

            คนในโลกที่ไม่รู้จักพระเจ้า ไม่มีพระเจ้า มักจะรักตัวเอง รักเงินทอง รักโลกและสิ่งของของโลก   แต่พระคัมภีร์เตือนเราว่า “อย่ารักโลกและสิ่งของของโลก”  คริสเตียนจึงดำเนินชีวิตโดยการรักพระเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจของตน 

            ประการที่สาม หมายความว่า หวังใจในพระเจ้า

            ความหวังของเราอยู่ที่พระเจ้าเท่านั้น คนในโลกนี้กำลังวิ่งแข็งเพื่อจะจับสิ่งว่างเปล่า เหมือนเงา   เงานั้นไม่ใช่เป็นตัวจริง   คนที่มีความหวังอยู่ในพระเจ้าก็เป็นสุข เพราะพระเจ้าทรงเป็นความหวังของโลก

            มีเรื่องราวพื้นเมืองของประเทศเยอรมัน ชื่อว่า “ขวาน 3 ด้ามของมารร้าย”

            บรรดามารร้ายเข้าร่วมประชุมเพื่อจะแสวงหายุทธวิธีที่จะทำลายมนุษย์  หลังจากที่ปรึกษาหารือกันแล้ว บรรดามารร้ายได้ตกลงว่า จะสร้างอาวุธพิเศาที่จะทำลายมนุษย์   ในที่สุด คณะกรรมการวิจัยได้ทำขวานพิเศษ 3 ด้าม หัวหน้ามารร้ายได้ยกขวานเหล่านี้ด้วยความพอใจ และบอกว่า “ถ้าเราจะใช้ขวานเพียงใบเดียวจาก 3 ใบนี้  สามารถที่จะทำลายมนุษย์ส่วนใหญ่ได้  ถ้าเราจะใช้ขวานทั้ง 3 ใบนี้ คงไม่มีมนุษย์คนใดคนหนึ่งที่ไม่ล้ม”   บรรดามารร้ายหัวเราะ

            อาวุธชิ้นแรกที่เขาทำ ก็คือ ขวานแดง  ซึ่งตัดความเชื่อที่กำลังงอกขึ้นในใจของมนุษย์   ชิ้นที่สอง คือ ขวานฟ้า ซึ่งตัดความหวังที่อยู่ในใจ และชิ้นที่สาม คือ ขวานดำ ซึ่งจะตัดกิ่งแห่งความรักที่กำลังเติบโตขึ้นในใจของมนุษย์  

นี่เป็นเพียงเรื่องราวพื้นเมือง แต่มีความหมายสำหรับชีวิตคริสเตียน มนุษย์เป็นวิญญาณ ไม่เหมือนสัตว์  ถ้าเราเสียความเชื่อ ความหวัง และความรัก ชีวิตของมนุษย์ไม่มีความหมายและไร้เป้าหมายเลย

          ให้เราระลึกถึงพระผู้สร้างชีวิตของเราในวันนี้ เพราะชีวิตที่ปราศจากพระเจ้านั้น ไร้ความหมายและเป้าหมาย  เราจำเป็นต้องรักษาความเชื่อ ความหวัง และความรักของเราไว้ให้มั่นคง




Map - Introduce

แนะนำร้านหนังสือคริสเตียนอื่นๆ article
แผนที่ศูนย์ทีรันนัส article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.