ฮีบรู 6:13-20
ให้เรารับพระพรของพระเจ้า
วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2005
มนุษยเราทุกคนอยากจะรับพร เราจึงอวยพรซึ่งกันและกันในเทศกาลปีใหม่ พร คืออะไร ตามความหมายของพจนานุกรมไทย พร คือคำแสดงความปรารถนาดี และมีพรสีประการ คืออายุ วรรณะ สุขะ และพละ
ตามพระคัมภีร์ พรเป็นสภาวะสุขสบาย ทั้งร่างกาย วิญญาณจิต และทางวัตถุ ในยอห์น 3.2 ...ขอให้ท่ารมีพลานามัยสมบูรณ์ และเจริญสุขทุกประการ อย่างจิตวิญญาณของท่านเจริญอยู่นั้น
การรับพรเป็นสิ่งที่ดี และทุกคนปรารถนา แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ปรารถนาหรือขอ ได้รับ เพราะไม่รู้จักแหล่งที่มาของพร หลายคนไม่รู้ว่าจะขอพรจากใคร บางคนขอจากธรรมชาติ บางคนขอจากผู้ใหญ่ บางคนขอจากบรรพบุรุษ บางคนขอจากรูปเคารพ หรือบรรดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย แต่ก็ไม่ค่อยได้ เพราะพรที่แท้จริงไม่ได้มาจากสิ่งเหล่านี้ พรมาจากไหน พระคัมภีร์บอกชัดเจนว่า พระเจ้าทรงเป็นแหล่งที่มาของพร ในข้อ 13 บอกว่า พระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้... ในข้อ 14บอกว่า เราจะอำนวยพรเจ้า ดังนั้น ผู้เขียนสดุดี บทที่ 146 บอกว่า อย่าวางใจในเจ้านาย ในบุตรของมนุษย์ ซึ่งไม่มีความช่วยเหลืออยู่ในตัวเขา ... คนที่ผู้อุปถัมภ์ของเขา คือพระเจ้าของยาโคบก็เป็นสุข คือผู้ที่ความหวังของเขาอยู่ในพระเจ้าของเขา (4, 6)
ดังนั้น เราต้องได้รับพระพรของพระเจ้า ถ้าเราไม่ได้รับพระของพระเจ้า เราอาจจะได้รับการแช่งสาป รับพระพรดีกว่ารับการแช่งสาป ถ้าเราจะรับพระพรของพระเจ้า เราควรรู้ว่า พระพรของพระเจ้านั้น เป็นอย่างไร ผู้เขียนฮีบรูได้บรรยายไว้ให้เรามั่นใจและไว้วางใจในพระองค์
1. เป็นพระพรที่แน่นอน ในข้อ 14 พระเจ้าตรัสว่า เราจะอำนวยพระเจ้าเป็นแน่ เพราะพระองค์ทรงเป็นแหล่งพระพร และทรงมรฤทธิ์อำนาจที่จะอวยพร พระเจ้าทรงอวยพรอับราฮัมตามที่พระองค์ทรงสัญญา ยิ่งกว่านั้นพระเจ้าทรงให้อับราฮัมเป็นเหตุให้คนอื่นรับพระพระด้วย พระเจ้าทรงอวยพรอิสอัค อิสอัคได้หว่างพืชแล้ว ในปีนั้นเก็บผลได้หนึ่งร้อยเท่า พระเจ้าทรงเป็นผู้ประทานพร ดังนั้น พระพรของพระเจ้าเป็นพระพรที่แน่นอน
2. เป็นพระพรที่ทวีมากขึ้น ในขอ 14 พระเจ้าตรัสต่อไปว่า และจะให้เผ่าพันธุ์ของเจาทวีมากขึ้น หลังจากที่อับราฮัมยอมถวายบุตรชายคนเดียว คืออิสอัคแล้ว พระเจ้าตรัสกับอับราฮัมว่า เราจะทวีเชื้อสายของเจ้าให้มากขึ้น ดังดวงดาวในท้องฟ้า และดังเม็ดทรายบนฝั่งทะเล พระบิดาของเราเป็นพระเจ้ารุ่งเรืองและยิ่งใหญ่สูงส่ง
3. เป็นพระพรที่ไม่เปลี่ยนแปลง ข้อ 17 บอกว่า ฉะนั้น เมื่อพระเจ้าทรงประสงค์จะแสดงให้บรรดาผู้ที่ได้รับพระสัญญาเป็นมรดกรู้แน่ยิ่งขึ้นว่า พระดำริของพระองค์จะไม่เปลี่ยนแปลง พระองค์จึงได้ทรงยืนยันพระสัญญานั้นด้วยคำสาบาน เพื่อว่า โดยสองประการที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ (พระเจ้าจะไม่ตรัสมุสา)
มนุษย์พูดแล้วไม่ได้รักษาคำพูดของตน และมักจะกินคำพูดของตน แต่พระเจ้าทรงต่างหาก รักษาคำสัญญาของพระองค์ จึงพระนามของพระองค์ว่า พระเยโฮวาห์
เราจะได้รับพระพรของพระเจ้าอย่างไร
1. ความเชื่อ ผู้ที่เชื่อจะได้รับพระพรของพระเจ้า ฮีบรู 6.12 ได้บอกว่า เราไม่อยากให้ท่านเป็นคนเฉื่อยช้า แต่ให้ตามเยี่ยงอย่างแห่งคนเหล่านั้นที่อาศัยความเชื่อและความเพียร จึงได้รับตามสัญญาเป็นมรดก เปาโลได้พูดถึงความเชื่อของอับราฮัมในโรม 4.18-21 หลังจากที่ทูตสวรรค์มาปรากฎแก่มารีย์และบอกว่า มารีย์จะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย คือเยซู มารีย์ได้ไปเยี่ยมเยลีซาเบ็ธ นางเยลีซาเบ็ธได้บอกมารีย์ว่า ลูกา 1.45 สตรีที่ได้เชื่อก็เป็นสุข เพราะว่าจะสำเร็จตามพระดำรัสจากพระเป็นเจ้าที่มาถึงเขา
2. การเชื่อฟัง ผู้ที่เชื่อฟังพระเจ้าจะได้รับพระพรของพระองค์ ฉธบ. 7.12 และเพราะท่านทั้งหลายเชื่อฟังกฎหมายเหล่านี้ รักษาและกระทำตาม ... ฉธบ. 11.26-28 ดูเถิด วันนี้ข้าพเจ้าได้นำคำอวยพรและคำสาปแช่งไว้ตรงหน้าท่านทั้งหลาย ถ้าท่านกระทำตามพระบัญญัติของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ ท่านก็จะเป็นไปตามพร ถ้าท่านไม่กระทำตามพระบัญญัติของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน แต่หันไปเสียจากทางซึ่งข้าพเจ้าข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ไปติดตามพระอื่นซึ่งท่านไม่รู้จัก ท่านก็จะเป็นไปตามคำสาปแช่ง
3. ความเพียร ผู้ที่ทนคอยด้วยความเพียรจะได้รับพระพรของพระเจ้า ในข้อ 12 ...คนเหล่านั้นที่อาศัยความเชื่อและความเพียร จึงได้รับตามสัญญาเป็นมรดก ข้อ15 บอกว่า เช่นนั้นแหละ เมื่ออับราฮัมได้ทนคอยด้วยความเพียรแล้ว ท่านก็ได้รับพระพรตามพระสัญญานั้น เมื่ออับราฮับได้รับคำสัญญาว่า จะได้รับพร และจะเป็นคนช่วยให้คนอื่นรับพรด้วย พูดง่ายว่า อับราฮัมจะมีลูกจากนางซาราห์ ในเวลานั้น อับราฮัมมีอายุ 75ปี และได้ลูกเมื่ออายุ 100ปี อับราฮัมอดทนและรอคอย นานเท่าไร
ให้เรารับพระพรของพระเจ้าที่แน่นอน อุดมสมบูรณ์ และไม่เปลี่ยนแปลงโดยความเชื่อ การเชื่อฟัง และความเพียร เหมือนอับราฮัม บิดาแห่งความเชื่อ
