ข้อดีและข้อจำกัดของ Forex Breakout Strategy

เช่นเดียวกับระบบเทรดอื่นๆ Breakout Strategy ก็มีทั้งข้อดีและข้อด้อยที่ควรพิจารณาให้รอบด้าน เพื่อใช้ให้เหมาะสมกับบุคลิกและสไตล์การเทรด forex ของตัวเอง

ประสิทธิภาพในการเทรดตามเทรนด์

Breakout มักเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นหรือการเปลี่ยนแปลงทิศทางของเทรนด์ ดังนั้นเทรดเดอร์ที่เข้าสถานะตาม Breakout มักจะอยู่ในฐานะที่ได้เปรียบในการเคลื่อนไหวของราคาตามแนวโน้มใหม่ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้การเข้าเทรดตามทิศทางของตลาดยังช่วยให้มีโอกาสทำกำไรได้มากและต่อเนื่องกว่าการเทรดสวนกระแสอีกด้วย

โอกาสในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวที่รุนแรง

Breakout มักมาพร้อมกับความผันผวนและโมเมนตัมที่สูง ซึ่งหากเปิดสถานะได้ถูกต้องกับจังหวะที่แรงซื้อหรือแรงขายกำลังหนาแน่น ก็มักจะได้กำไรที่สูงมากในเวลาอันสั้น โดยราคาหลังจาก Breakout สามารถวิ่งต่อเนื่องไปเป็น 100-200 Pips หรือมากกว่านั้นได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วัน ซึ่งเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ทุกคนปรารถนา

ความเสี่ยงจากการเกิด False Breakout

อย่างไรก็ดี การเกิด Breakout ไม่ได้การันตีว่าราคาจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางนั้นเสมอไป บางครั้งอาจเป็นเพียงการทะลุผ่านแนวต้านหรือแนวรับชั่วคราว แล้วราคาก็ย้อนกลับมายังกรอบเดิมอีกครั้ง เรียกว่า False Breakout ซึ่งมักจะพบได้บ่อยในตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำหรือมีข่าวสารที่ขัดแย้งกัน ดังนั้นการรอการยืนยันหลังจากเกิด Breakout ไปแล้วจึงเป็นสิ่งจำเป็น และควรใช้ Stop Loss เพื่อจำกัดความเสียหายหากเกิดสัญญาณหลอก

ความยากในการหาจุดเข้าเทรดที่เหมาะสม

หลักการง่ายๆ ของ Breakout Strategy คือ "ซื้อเมื่อราคาสูงขึ้น ขายเมื่อราคาต่ำลง" แต่ในความเป็นจริงแล้ว การที่ราคาทะลุผ่านแนวต้านหรือแนวรับไปแล้ว ก็มักจะเคลื่อนไหวไปได้ระยะหนึ่งก่อนที่เราจะทันเข้าสถานะ ดังนั้นการเลือกจังหวะที่จะเข้าเพื่อให้ได้ราคาที่ดีจึงเป็นเรื่องท้าทาย บางคนอาจรอให้ราคาย่อตัวกลับมาแตะแนวรับแนวต้านเดิมแล้วดีดตัวขึ้นเพื่อยืนยันอีกครั้ง บางคนอาจเข้าทันทีเมื่อมีสัญญาณยืนยันจากอินดิเคเตอร์หรือแท่งเทียน ซึ่งต้องอาศัยการฝึกฝนและประสบการณ์ในระดับหนึ่ง